แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จ
อ้างฎีกาที่ 262/2474 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.137
พนักงานสอบสวนจะกักขังพะยานไว้ไม่ได้
ย่อยาว
อ.ถูกทำร้ายถึงตาย เจ้าพนักงานไปสอบสวนพวกจำเลย ๆ ให้การว่าได้ทำร้าย อ.ตายไม่ทราบ เจ้าพนักงานเห็นว่าพวกจำเลยกล่าวเท็จเพื่อปิดบังผู้ร้าย จึงเอาตัวจำเลยทุกคนไปกักไว้ไม่ให้ไปไหนและไม่ให้พบปะพูดจากับใคร แล้วเจ้าพนักงานก็ช่วยกันซักถาม จำเลยทุกคนต่างยอมให้การว่าเห็น พ.ตี อ. เจ้าพนักงานก็ปล่อยตัวไป ต่อมาจำเลยเหล่านี้ไปยื่นคำร้องว่าที่ให้การไปนั้นโดยถูกเจ้าพนักงานขู่เข็ญ ความจริงคนตี อ.ไม่ใช่ พ. โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จ
ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่จำเลยถูกกักขังเช่นนี้เป็นการกักขังจำเลยในฐานนะผู้ต้องหาฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพราะไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจเจ้าพนักงานสอบสวนกักขังพะยานได้ ม.๑๓๗ ประมวลวิธีพิจารณาความอาญาเป็นเรื่องพนักงานสอบสวนห้ามมิให้ผู้ใดออกจากที่ทำการชั่วเวลาที่จำเป็นในการสอบสวนเท่านั้น เพราะฉะนั้นเมื่อเจ้าพนักงานเอาตัวจำเลยไปกักขังและสอบสวนจำเลยในฐานะผู้ต้องหาแล้ว ข้อความที่จำเลยให้การแม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดตามนัยฎีกาที่ ๒๖๒/๒๔๗๔ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ยืนตาม