แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ก่อสร้างถนน สัญญาดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของโจทก์ได้ออกเงินชำระ ค่าของที่ใช้ในการก่อสร้างให้แก่ร้านค้าแทนจำเลยไปก่อน แล้วโจทก์นำเงินดังกล่าวมาหักกับค่าจ้างที่จำเลยจะได้รับจากโจทก์ จำเลยยังเป็นหนี้โจทก์อยู่ โจทก์จึงขอบังคับให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวคืน ดังนี้ มิใช่เรื่องที่โจทก์เป็น ผู้ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้รับจ้างเรียกเงินที่ตนได้ทดรองจ่ายไปในการทำงานให้แก่ผู้ว่าจ้างจาก ผู้ว่าจ้างตามมาตรา 193/34 (1) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี แต่กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์เป็นผู้ว่าจ้างเรียกเงินที่ตนได้ทดรองจ่ายแทนผู้รับจ้างไปจากผู้รับจ้าง ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 6,178,338.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง ต่อปีของต้นเงิน 5,043,541.63 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้องภายใน 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 คดีของโจทก์ ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 5,043,541.63 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 30,000 บาท คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 8,000 บาท แทนโจทก์
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยทั้งสองให้ก่อสร้างถนน สัญญาดังกล่าวมีลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของ โจทก์ได้ออกเงินชำระค่าของที่ใช้ในการก่อสร้างให้แก่ร้านค้าแทนจำเลยไปก่อน เมื่อโจทก์และจำเลยทั้งสองปฏิบัติตามสัญญาแล้วเสร็จ โจทก์นำเงินดังกล่าวมาหักกับค่าจ้างที่จำเลยทั้งสองจะได้รับจากโจทก์ จำเลยทั้งสองยังเป็นหนี้โจทก์อยู่ โจทก์จึงขอบังคับให้จำเลยทั้งสองชำระเงินดังกล่าวคืน มิใช่เรื่องที่โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าหรือ อุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้รับจ้างเรียกเงินที่ตนได้ทดรองจ่ายไปในการทำงานให้แก่ผู้ว่าจ้างจากผู้ว่าจ้างตามมาตรา 193/34 (1) ซึ่งมีอายุความ 2 ปี แต่กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์เป็นผู้ว่าจ้างเรียกเงินที่ตนได้ทดรองจ่ายแทนผู้รับจ้างไปจากผู้รับจ้าง ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 เมื่อโจทก์ฟ้อง คดีนี้ยังไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ออกเงินทดรองไป คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 10,000 บาท แทนโจทก์ คืนค่าฤชาธรรมเนียมใช้ แทนโจทก์ในชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกินกว่า 156,507.50 บาท แก่จำเลยทั้งสอง.