คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4857/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยให้การยอมรับตามคำฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์เป็นทายาท แต่การจัดการมรดกตามคำสั่งศาลของจำเลยยังไม่เสร็จสิ้นนั้นข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่าโจทก์มีสิทธิรับมรดก ขอให้จำเลยทำบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดกตามบัญชีดังกล่าวจึงยังมิได้มีการโต้แย้งจากจำเลย สิทธินำคดีมาสู่ศาลของโจทก์ยังไม่เกิดส่วนข้อกล่าวอ้างตามคำฟ้องที่โจทก์ว่าจำเลยจัดการทรัพย์มรดกล่าช้าส่อไปในทางทุจริต ไม่จัดการทรัพย์มรดกตามกฎหมายก็เป็นเพียงข้ออ้างที่โจทก์จะร้องต่อศาลชั้นต้นในคดีขอเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลย ขอให้ศาลชั้นต้นเร่งรัดจำเลยให้จัดการมรดกให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว มิใช่ข้อโต้แย้งสิทธิโจทก์ที่ก่อให้โจทก์มีสิทธินำคดีมาฟ้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทของนายใจ๋หรือใจและนางผัดจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายใจ๋และนางผัดตามคำสั่งศาลนับแต่จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลแล้วจำเลยไม่ได้ดำเนินการแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทภายในระยะเวลาอันสมควรและไม่ชี้แจงแสดงทรัพย์มรดกให้โจทก์หรือทายาทอื่นทราบ มีพฤติการณ์น่าสงสัยส่อไปในทางปิดบังทรัพย์มรดก ขอให้บังคับจำเลยทำบัญชีทรัพย์มรดกและอัตราส่วนแบ่งของกองมรดกแสดงแก่โจทก์และทายาทอื่นทราบโดยเร็ว ให้จำเลยแบ่งปันทรัพย์มรดกตามอัตราส่วนแบ่งในบัญชีทรัพย์มรดกแก่โจทก์และทายาทอื่นภายใน 7 วันนับแต่วันทำบัญชีทรัพย์มรดกและอัตราส่วนแบ่งกองมรดกเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิดหน้าที่ของผู้จัดการมรดกและไม่เคยปิดบังทรัพย์มรดก โจทก์ไม่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือจำเลยในการสืบหาทรัพย์มรดกกลับปิดบังหนี้สินของตนเอง จำเลยไม่ได้โต้แย้งสิทธิโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายใจ๋หรือใจ เรือนคำ และนางผัด เรือนคำ ผู้ตาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายใจ๋หรือใจและนางผัด เรือนคำ ตามคำสั่งศาลชั้นต้น โจทก์เป็นบุตรของนายบุญศรี เรือนคำ ทายาทของนายใจ๋และนางผัด บิดาโจทก์ถึงแก่กรรมก่อนที่จำเลยจะจัดการแบ่งปันทรัพย์มรดกได้เสร็จสิ้น ศาลฎีกาเห็นสมควรยกปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องซึ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นวินิจฉัยแม้คู่ความมิได้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา142(5) ประกอบมาตรา 246, 247 ปัญหานี้จำเลยให้การยอมรับตามคำฟ้องของโจทก์ว่าโจทก์เป็นทายาทนายบุญศรี แต่การจัดการมรดกตามคำสั่งศาลชั้นต้นของจำเลยยังไม่เสร็จสิ้น ฉะนั้นข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ ว่าโจทก์มีสิทธิรับมรดก ขอให้จำเลยทำบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งปันทรัพย์มรดกตามบัญชีดังกล่าวจึงยังมิได้มีการโต้แย้งจากจำเลย สิทธินำคดีมาสู่ศาลของโจทก์ยังไม่เกิด ข้อกล่าวอ้างตามคำฟ้องที่โจทก์ว่าจำเลยจัดการทรัพย์มรดกล่าช้าส่อไปในทางทุจริตไม่จัดการทรัพย์มรดกตามกฎหมาย ไม่ใช่ข้อโต้แย้งสิทธิโจทก์ที่ก่อให้โจทก์มีสิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ข้ออ้างดังกล่าวเป็นเพียงข้ออ้างที่โจทก์จะร้องต่อศาลชั้นต้นในคดีขอเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลย ขอให้ศาลชั้นต้นเร่งรัดจำเลยให้จัดการมรดกให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเท่านั้น คำฟ้องโจทก์มิใช่คำฟ้องที่ศาลชั้นต้นจะรับประทับฟ้องไว้พิจารณาพิพากษา คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เพิกถอนคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกทั้งที่โจทก์มิได้บรรยายคำขอไว้ท้ายคำฟ้องก็ดี คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่วินิจฉัยว่าการจัดการมรดกของจำเลยเสร็จแล้วพิพากษายกฟ้องทั้งที่จำเลยยื่นคำให้การรับว่าการจัดการมรดกตามคำสั่งศาลชั้นต้นยังไม่เสร็จสิ้นก็ดี ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยคงเห็นพ้องด้วยในผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 เท่านั้น ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share