แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลล้มละลายคู่ความสามารถอุทธรณ์ได้เฉพาะกรณีที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายฯ มาตรา 24 วรรคสอง (1) ถึง (5) มิฉะนั้นจะอุทธรณ์ได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา คดีนี้จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางที่พิพากษาให้จำเลยล้มละลาย กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 24 วรรคสอง (1) ถึง (5) จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ทั้งศาลฎีกาพิจารณาแล้วไม่มีกรณีจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดตามมาตรา 26 วรรคสี่ ที่ศาลล้มละลายกลางสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยมานั้น เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 14 ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2548 ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหนี้รายใดมาร่วมประชุม ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย
ศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้จำเลยล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 61
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ในการอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลล้มละลายนั้นย่อมเป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 24 ซึ่งคู่ความสามารถอุทธรณ์ได้เฉพาะกรณีที่กำหนดไว้ตามมาตรา 24 วรรคสอง (1) ถึง (5) มิฉะนั้นแล้วจะอุทธรณ์ได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา คดีนี้จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางที่พิพากษาให้จำเลยล้มละลาย กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 24 วรรคสอง (1) ถึง (5) จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ทั้งศาลฎีกาพิจารณาแล้วไม่มีกรณีจำเป็นต้องแก้ไขข้อผิดพลาดตามมาตรา 26 วรรคสี่ ที่ศาลล้มละลายกลางสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยมานั้น เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นนี้ให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมนอกจากนี้ให้เป็นพับ