คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 484/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อบริษัท ส. ติดต่อขอให้โจทก์สั่งซื้อสินค้าให้โดยตกลงจะให้ค่านายหน้าแก่โจทก์ โจทก์ได้ติดต่อไปยังบริษัท ม.ประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัทดังกล่าวได้แจ้งราคาสินค้าที่บริษัท ส.ต้องการซื้อมายังโจทก์ โจทก์แจ้งให้บริษัท ส.ผู้ซื้อทราบ บริษัทผู้ซื้อพอใจจึงทำการซื้อขายและชำระราคาแก่บริษัท ม.ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยตรง การที่โจทก์แนะนำบริษัท ม.ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศให้แก่บริษัท ส.ซึ่งเป็นลูกค้าของโจทก์ในประเทศไทย โดยมีการติดต่อผ่านโจทก์จนทำการซื้อขายสินค้ากัน แม้ผู้ซื้อซึ่งเป็นลูกค้าของโจทก์จะทำสัญญาซื้อขายและชำระราคาค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายซึ่งเป็นบริษัทในต่างประเทศโดยตรง โดยโจทก์มิได้มีส่วนรับผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหรือการชำระราคาค่าสินค้าก็ตาม แต่การที่บริษัทในต่างประเทศสามารถขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยได้ ก็เนื่องมาจากโจทก์เป็นตัวเชื่อมให้ผู้ซื้อและผู้ขายติดต่อกัน จึงถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อให้แก่บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ เมื่อบริษัทในต่างประเทศได้รับชำระค่าสินค้าย่อมมีเงินได้หรือผลกำไรรวมอยู่ด้วย โจทก์จึงมีหน้าที่และความรับผิดในการยื่นแบบรายการและเสียภาษีเงินได้ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 76 ทวิ
ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 70 ทวิ ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้ในการจำหน่ายกำไรออกไปจากประเทศไทยนั้น ต้องเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไรหรือเงินที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไร โจทก์เป็นเพียงผู้ทำการติดต่อกับลูกค้าในประเทศไทยในการขายสินค้าแทนบริษัทในต่างประเทศ ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นสาขาของบริษัทในต่างประเทศและเป็นผู้จำหน่ายเงินกำไรแต่อย่างใด เพียงแต่ลูกค้าของโจทก์ในประเทศไทยได้ติดต่อทำสัญญาซื้อขายและชำระราคาค่าสินค้าให้แก่บริษัทในต่างประเทศโดยตรง แม้ค่าสินค้าที่ลูกค้าชำระจะมีเงินกำไรรวมอยู่ด้วย แต่โจทก์ก็มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งเงินไปชำระค่าสินค้า ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้จำหน่ายเงินกำไรออกไปจากประเทศไทย จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีจากการจำหน่ายกำไรออกไปจากประเทศไทย ตามมาตรา 70 ทวิ

Share