คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4838/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นและยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2546 ว่าถือไม่ได้ว่าจำเลยยากจน จึงยกคำร้อง หากจำเลยประสงค์ที่จะอุทธรณ์ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายใน 15 วัน ต่อมาวันที่ 23 มิถุนายน 2546 จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยต้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๖๕๕,๔๑๕ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๕๕๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๘,๐๐๐ บาท คำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๖ ว่า ถือไม่ได้ว่าจำเลยยากจน จึงยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ หากจำเลยประสงค์ที่จะอุทธรณ์ให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระภายใน ๑๕ วัน วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๖ จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่เพื่ออนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าจำเลยเป็นคนยากจน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องเป็นเหตุเดียวกับที่ได้อ้างและศาลได้ไต่สวนไว้เดิมแล้ว ทั้งตามคำร้องไม่ได้แสดงให้เห็นตามสมควรว่าพยานหลักฐานที่จะนำมาแสดงเพิ่มเติมนั้นสามารถหักล้างข้อเท็จจริงตามที่ศาลสั่งมาได้อย่างไรจึงยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ วินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด ๗ วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๕๖ วรรคท้าย ให้ยกคำร้อง คืนค่าขึ้นศาล ๒๐๐ บาท ให้แก่จำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ตามคำร้องของจำเลย ฉบับลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๔๖ ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งในวันเดียวกันนั้น จำเลยจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ภายในกำหนดเจ็ดวันหรือไม่ เห็นว่า ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอของจำเลยที่ขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้นำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติม จำเลยต้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ภายใน ๗ วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๕๖ วรรคท้าย เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกิน ๗ วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ชอบแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share