คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป้ากู้เงินผู้อื่นมาโดยเอาสวนของหลานมอบให้เขาใช้ต่างดอกเบี้ย แล้วเอาเงินที่กู้มาใช้จ่ายในการรักษาหลานซึ่งวิกลจริตอยู่ ดังนี้จะว่าป้ายักยอกเอาสวนหรือเงินที่กู้มาไปเพื่อประโยชน์ตนเองไม่ถนัด ยังไม่เป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 314
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์จึงขอให้ลงโทษในทางอาญาและคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่ง เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงแล้ว โจทก์ก็ฎีกาขอให้ลงโทษทางอาญาไม่ได้ ส่วนข้อที่ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่งนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในทางอาญา ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้แล้ว ในทางแพ่งก็ฟังตามคดีอาญาว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายทรัพย์รายนี้ไว้ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสามีนางสมบุญจำเลยเป็นป้านางสมบุญ นางสมบุญวิกลจริต จำเลยรับตัวนางสมบุญไปรักษา และรับมอบทรัพย์ของนางสมบุญตามบัญชีหมายเลข ๑ ไปด้วย ต่อมาโจทก์ได้มอบทรัพย์ตามบัญชีหมายเลข ๒ ให้จำเลยไว้อีก แล้วจำเลยได้ยักยอกทรัพย์ตามบัญชีหมายเลข ๑-๒ ไป ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๑๔ และให้ใช้เงิน ๕๙๐๕ บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๑๔ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์หมายเลข ๑ อันดับ ๑ ถึง ๕ นั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า ฟังไม่ได้ว่านำเลยได้รับมอบหมายไว้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยในทางอาญาไม่ได้ ส่วนข้อที่โจทก์ขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ในทางแพ่งนั้น เมื่อข้อเท็จจริงในทางอาญาฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์อันดับ ๑ ถึง ๕ ข้อบัญชีหมาย ๑ แล้วข้อเท็จจริงในทางแพ่งก็ต้องฟังตามคดีอาญาว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายทรัพย์ ๕ อันดับนี้ไว้
ส่วนทรัพย์ตามบัญชีหมาย ๒ คงฟังได้เฉพาะสวนจากอันดับ ๒๔ รายเดียวว่าจำเลยนำไปกู้เงินนางกิมเหลี้ยง ๒๐๐ บาท มอบสวนให้ตัดใช้ต่างดอกเบี้ย เอาเงินกู้ไปรักษานางสมบุญ จึงเห็นว่าจะว่าจำเลยยักยอกเอาสวนจากหรือเงิน ๒๐๐ บาทไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนเอง ไม่ถนัด จะชี้ขาดให้จำเลยคืนสวนจากหรือเงิน ๒๐๐ บาท ก็ต่างกับประเด็นกับที่โจทก์ฟ้อง
จึงพิพากษายืน

Share