คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์แล้วบางส่วน แต่เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดแจ้งว่า หากพิจารณาใหม่แล้วศาลอาจพิจารณาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิจารณาไปแล้ว จึงถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 วรรคท้าย

ย่อยาว

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คำร้องของจำเลยกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยมิได้ยื่นคำให้การแก้คดี และมิได้มาศาลเนื่องจากจำเลยไม่เคยรับทราบสำเนาคำฟ้องและวันนัดพิจารณา เพราะจำเลยมิได้มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานอยู่ ณ บ้านพิพาท โดยจำเลยได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 114 ถนนสุทธิสารตำบลสามเสนนอก อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เป็นการกล่าวถึงเหตุที่จำเลยขาดนัดแต่ประการเดียว จำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร หากมีการพิจารณาคดีใหม่จำเลยอาจจะชนะคดีได้อย่างไรบ้าง แม้จำเลยจะอ้างว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วเป็นบางส่วนก็เป็นแต่เพียงกล่าวขึ้นลอย ๆ ไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงที่จะแสดงให้เห็นได้ชัดแจ้งว่า หากพิจารณาใหม่แล้ว ศาลอาจพิจารณาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิจารณาไปแล้วถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย”

พิพากษายืน

Share