คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

มูลนิธิที่จะเป็นนิติบุคคลได้ต้องเป็นมูลนิธิที่ได้รับจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วเมื่อขณะรับการให้มูลนิธิผู้รับโอนยังไม่เป็นนิติบุคคลย่อมถือว่าเป็นการให้ที่ผู้โอนให้สำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรมทำให้นิติกรรมการให้เป็นโมฆะจำเลยที่1และที่2ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ได้รับเรื่องราวตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา61ย่อมเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการให้ได้หาจำต้องให้ผู้โอนให้ไปฟ้องร้องเพื่อเพิกถอนการให้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการเพิกถอนการให้ก่อนไม่

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ ที่ 1 เป็น กรรมการ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา โจทก์ ที่ 2 ซึ่ง ประกอบ ด้วย นาย พวน แสงฮาด นายวิรัตน์ อาจอินทร์ นายสุนทร ไชยรส นายสำรวย แสงรัตน์ นายทศพร ชัยเจริญ นาย วิเชียร บุตรโยธี และ นาย ไพฑูรย์ วงษ์หาริมาตย์ เป็น คณะกรรมการ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา เมื่อ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2518 จำเลยที่ 3 ได้ ยก ที่ดินพิพาท โฉนด เลขที่ 975 ให้ แก่ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยเสน่หา โดย มี การ จดทะเบียน โอน กรรมสิทธิ์ถูกต้อง ตาม ระเบียบ และ กฎหมาย แล้ว ครั้น เมื่อ วันที่ 20 กันยายน 2532จำเลย ที่ 2 ซึ่ง รักษา ราชการ แทน จำเลย ที่ 1 อาศัย อำนาจ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้ สั่ง ให้ ออก ใบแทน โฉนด ที่ดินพิพาท ดังกล่าว ให้ แก่จำเลย ที่ 3 และ ออกคำสั่ง จังหวัด หนองคาย ที่ 1924/2532 ลงวันที่ 20กันยายน 2532 เพิกถอน รายการ จดทะเบียน ที่ จำเลย ที่ 3 ยก ที่ดินพิพาทให้ แก่ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา โดย ไม่มี อำนาจ ขอให้ บังคับจำเลย ที่ 1 เพิกถอน คำสั่ง จังหวัด หนองคาย ที่ 1924/2532 ลงวันที่ 20กันยายน 2532 และ สั่ง ให้ เจ้าพนักงาน ที่ดิน จด แจ้ง รายการ เพิกถอนคำสั่ง ลง ใน โฉนด ที่ดิน ฉบับ สำนักงาน ที่ดิน กับ เรียก ใบแทน โฉนด ที่ดิน จากจำเลย ที่ 3 คืน ถ้า จำเลย ที่ 1 ไม่ปฏิบัติ หรือไม่ สามารถ ปฏิบัติ ได้ให้ ถือเอา คำพิพากษา เป็น การแสดง เจตนา ของ จำเลย ที่ 1 และ ห้ามจำเลย ที่ 3 เข้า เกี่ยวข้อง ใน ที่ดินพิพาท อีก ต่อไป
จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ให้การ ว่า มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนาไม่ได้ จดทะเบียน เป็น นิติบุคคล ต่อ กระทรวงมหาดไทย จึง ไม่มี ฐานะ เป็นนิติบุคคล ตาม กฎหมาย ถือไม่ได้ว่า คณะกรรมการ ของ มูลนิธิ เป็น ผู้แทน ของนิติบุคคล ที่ จะ ดำเนินการ ตาม วัตถุประสงค์ ของ มูลนิธิ ได้ จึง ไม่อาจเป็น คู่ความ ฟ้องคดี นี้ ทั้ง สัญญา ให้ ที่ดินพิพาท ระหว่าง จำเลย ที่ 3กับ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ตกเป็น โมฆะ เพราะ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา ไม่มี ฐานะ เป็น นิติบุคคล การ ที่ จำเลย ที่ 2 ใน ฐานะรองผู้ว่าราชการ จังหวัด ซึ่ง รักษา ราชการ แทน ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิกถอน รายการ จดทะเบียน ให้ ที่ดินพิพาท จึง เป็น การ ใช้ อำนาจ โดยชอบด้วย กฎหมาย ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 แล้ว ขอให้ ยกฟ้อง
จำเลย ที่ 3 ให้การ ว่า คำสั่ง จังหวัด หนองคาย ที่ 1924/2532ชอบ ด้วย กฎหมาย แล้ว เพราะ ขณะ รับ การ ให้ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนาไม่ได้ เป็น นิติบุคคล ตาม กฎหมาย สัญญา ให้ จึง ตกเป็น โมฆะ นอกจาก นี้มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ยัง ได้ นำ ที่ดินพิพาท ออก ให้ เช่า เปิดร้าน อาหาร จำหน่าย สุรา อันเป็น การ ผิด วัตถุประสงค์ ของ มูลนิธิและ ผู้ ให้ อย่างร้ายแรง ทั้ง มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ได้ ตั้ง มา นานถึง 15 ปี แล้ว แต่ ก็ หา ได้ จดทะเบียน เป็น นิติบุคคล ไม่ โจทก์ ไม่มี อำนาจฟ้อง และ ใช้ สิทธิ โดย ไม่สุจริต ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ เพิกถอน คำสั่ง จังหวัด หนองคาย ที่ 1924/2532ลงวันที่ 20 กันยายน 2532 เรื่อง เพิกถอน รายการ จดทะเบียน ให้ที่ดิน และ ใบแทน โฉนด เลขที่ 975 เลขที่ ดิน 50 ตำบล ในเมือง อำเภอ เมือง หนองคาย จังหวัด หนองคาย ห้าม จำเลย ที่ 3 เกี่ยวข้อง กับที่ดิน โฉนด เลขที่ 975 ดังกล่าว คำขอ อื่น นอกจาก นี้ ให้ยก และ ให้ยก ฟ้องจำเลย ที่ 2
จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษาแก้ เป็น ว่า ให้ยก ฟ้องโจทก์ เกี่ยวกับจำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 เสีย ด้วย นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษาของ ศาลชั้นต้น
ระหว่าง รอ ยื่นฎีกา โจทก์ ที่ 1 ถึงแก่กรรม นาย พวน แสงฮาด นาย วิรัตน์ อาจอินทร์ นายสุตทร ไชยรส นายสำรวย แสงรัตน์ นาย ทศพร ชัยเจริญ นายวิเชียร บุตรโยธี นายไพฑูลย์ วงษ์หาริมาตย์ คณะกรรมการ โจทก์ ที่ 2 ยื่น คำร้องขอ เข้า เป็น คู่ความ แทน โจทก์ ที่ 1และ ที่ 2 ศาลชั้นต้น อนุญาต
โจทก์ ทั้ง สอง และ จำเลย ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ว่า มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา ได้รับ อนุญาต ให้ ดำเนินการ จัดตั้ง ได้ เมื่อ วันที่ 25มีนาคม 2518 ตาม ใบอนุญาต จัดตั้ง เอกสาร หมาย จ. 4 โจทก์ ทั้ง สองเป็น กรรมการ ของ มูลนิธิ ดังกล่าว โจทก์ ที่ 2 มอบอำนาจ ให้ โจทก์ ที่ 1ดำเนินคดี แทน ตาม หนังสือมอบอำนาจ เอกสาร หมาย จ. 1 ใน วันที่ โจทก์ทั้ง สอง ฟ้องคดี นี้ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ยัง มิได้ จดทะเบียนเป็น นิติบุคคล ตาม กฎหมาย เมื่อ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2518 จำเลย ที่ 3ได้ ยก ที่ดิน โฉนด เลขที่ 975 ตำบล ในเมือง อำเภอ เมือง หนองคาย จังหวัด หนองคาย ซึ่ง เป็น ที่ดินพิพาท คดี นี้ ให้ แก่ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยเสน่หา โดย จดทะเบียน โอน กรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน จังหวัด หนองคาย ตาม สารบัญ จดทะเบียน ใน โฉนด ที่ดิน เอกสาร หมายจ. 12 และ หนังสือ สัญญา ให้ ที่ดิน เอกสาร หมาย จ. 13 ต่อมา ใน ปี 2532 จำเลยที่ 3 ได้ ร้องเรียน ต่อ เจ้าพนักงาน ที่ดิน จังหวัด หนองคาย เพื่อ ให้จำเลย ที่ 1 เพิกถอน รายการ จดทะเบียน ใน โฉนด ที่ดินพิพาทโดย อ้างว่า การ จดทะเบียน ให้ ที่ดิน ดังกล่าว ระหว่าง จำเลย ที่ 3 ผู้ ให้กับ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ผู้รับ ให้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้รับ ให้ ไม่มี ฐานะ เป็น นิติบุคคล ไม่มี สิทธิ รับ ให้ ที่ดิน จำเลย ที่ 3จึง ขอ เรียก ที่ดิน ที่ ให้ คืน เจ้าพนักงาน ที่ดิน จังหวัด หนองคาย ทำการสอบสวน แล้ว เห็นว่า มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา มิได้ จดทะเบียนเป็น นิติบุคคล ไม่อาจ เป็น ผู้รับ ให้ ได้ สัญญา ให้ ที่ดิน ระหว่าง จำเลยที่ 3 กับ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา จึง ตกเป็น โมฆะ ต้อง เพิกถอน รายการจดทะเบียน จึง ได้ เสนอ ความเห็น ต่อ จำเลย ที่ 1 และ แจ้ง ไป ยัง นาย กำพล กลิ่นสุคนธ์ นายมั่น ไกรราช ผู้ลงชื่อ เป็น ผู้รับ ให้ ใน นาม มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา เพื่อ ทราบ ถึง การ สอบสวน นี้ ซึ่ง ไม่มี ผู้ใดคัดค้าน และ ได้ แจ้ง ให้ นาย สุนทร ไชยรส ผู้ถือ โฉนด ฉบับ เจ้าของ ที่ดิน ของ ที่ดินพิพาท ส่งมอบ โฉนด ฉบับ เจ้าของ ที่ดิน ของ ที่ดินพิพาท ดังกล่าวคืน เพื่อ เพิกถอน รายการ จดทะเบียน แต่ นาย สุนทร ไม่ส่ง โฉนด ที่ดิน ฉบับ เจ้าของ ที่ดิน ให้ เจ้าพนักงาน ที่ดิน จังหวัด หนองคาย จึง ทำ ความเห็นเสนอ ต่อ จำเลย ที่ 1 ให้ เพิกถอน รายการ จดทะเบียน และ ออก ใบแทนโฉนด ที่ดิน ฉบับ เจ้าของ ที่ดิน จำเลย ที่ 2 ซึ่ง รักษา ราชการ แทน จำเลยที่ 1 อาศัย อำนาจ ตาม มาตรา 61 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติม โดย พระราชบัญญัติ แก้ไข เพิ่มเติม ประมวลกฎหมายที่ดิน(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2528 ได้ มี คำสั่ง ที่ 1924/2532 ลงวันที่ 20กันยายน 2532 ให้ ออก ใบแทน โฉนด ที่ดินพิพาท แล้ว ให้ เพิกถอน รายการจดทะเบียน ประเภท ให้ ใน โฉนด ที่ดิน แปลง ดังกล่าว รวม ตลอด ทั้ง เอกสารที่ เกี่ยวข้อง ทั้งหมด ตาม คำสั่ง จังหวัด หนองคาย เอกสาร หมาย ล. 14
พิเคราะห์ แล้ว เห็นสมควร วินิจฉัย ฎีกา ของ โจทก์ ทั้ง สอง ก่อน โจทก์ทั้ง สอง ฎีกา ว่า เมื่อ มูลนิธิ เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ได้รับ อนุญาต ให้ก่อตั้ง ขึ้น แล้ว คณะกรรมการ ซึ่ง ทำ หน้าที่ ของ ผู้จัดการ มูลนิธิ ย่อมเป็น ผู้รับ การ ให้ และ ยึดถือ ที่ดิน ที่ รับ การ ให้ นั้น ได้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 82 วรรคสาม คำสั่ง ให้ ออก ใบแทน โฉนดที่ดิน และ เพิกถอน รายการ การ จดทะเบียน การ ให้ ตาม คำสั่ง จังหวัด หนองคายที่ 1924/2532 จึง ไม่ชอบ เมื่อ การ ให้ สมบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 525 แล้ว จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2จึง ไม่มี อำนาจ เพิกถอน การ ให้ ได้ เพราะ การ เพิกถอน การ ให้ จะ มี ได้ต่อเมื่อ เป็น ไป ตาม บทบัญญัติ ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531ถึง มาตรา 535 และ เป็น เรื่อง ที่ ต้อง ฟ้อง ศาล ขอ เพิกถอน การ ให้จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 จะ ใช้ สิทธิ เพิกถอน การ ให้ ไม่ได้ จำเลย ที่ 1และ ที่ 2 จึง อาศัย อำนาจ ตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 มา เพิกถอนการ ให้ นี้ ไม่ได้ เห็นว่า ใน สารบัญ จดทะเบียน การ ให้ ที่ดิน ใน โฉนด ที่ดินพิพาท เอกสาร หมาย จ. 12 ระบุ ว่า ผู้รับโอน คือ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ โจทก์ ที่ 1 และ ที่ 2 ซึ่ง เป็น เพียง กรรมการ ของมูลนิธิ เมื่อ ขณะ รับ การ ให้ มูลนิธิ ดังกล่าว มี ฐานะ เพียงแต่ ได้รับอนุญาต ให้ จัดตั้ง ยัง มิได้ จดทะเบียน จึง ถือว่า มูลนิธิ ดังกล่าว ยัง ไม่เป็น นิติบุคคล ตาม กฎหมาย ที่ จะ รับ การ ให้ ได้ เพราะ นิติบุคคล จะ มี ขึ้น ได้ก็ แต่ ด้วย อาศัย อำนาจ แห่งกฎหมาย เมื่อ ขณะ ได้รับ อนุญาต จัดตั้ง มูลนิธิเมื่อ ปี 2518 นั้น มูลนิธิ ดังกล่าว เพียงแต่ ยื่น ขอ จดทะเบียน เท่านั้นแต่ นายทะเบียน ยัง มิได้ รับ จดทะเบียน และ ออก ใบ สำคัญ แสดง การจดทะเบียน ให้ แก่ มูลนิธิ และ ประกาศ การ จัดตั้ง มูลนิธิ ดังกล่าว ในราชกิจจานุเบกษา เลย เมื่อ นายทะเบียน ยัง มิได้ รับ จดทะเบียน เช่นนี้ แล้วมูลนิธิ ดังกล่าว จึง ยัง ไม่เป็น นิติบุคคล เพราะ มูลนิธิ ที่ จะ เป็นนิติบุคคล ได้ ต้อง เป็น มูลนิธิ ที่ ได้รับ จดทะเบียน เป็น นิติบุคคล แล้วดังนั้น เมื่อ ขณะ รับ การ ให้ มูลนิธิ ดังกล่าว ไม่เป็น นิติบุคคล แล้ว กลับอ้างว่า มูลนิธิ เป็น นิติบุคคล เช่นนี้ ย่อม ถือว่า การ ให้ นั้น เป็น โมฆะเพราะ เมื่อ ผู้ ให้ ระบุ ว่า ขอ ยก ที่ดินพิพาท ให้ แก่ มูลนิธิ เผยแพร่พระพุทธศาสนา นั้น ย่อม หมายถึง ว่า มูลนิธิ ดังกล่าว เป็น นิติบุคคลแล้ว เมื่อ มูลนิธิ ดังกล่าว ยัง ไม่เป็น นิติบุคคล แล้ว ย่อม ถือว่า เป็น การให้ ที่ สำคัญผิด ใน สาระสำคัญ แห่ง นิติกรรม จึง ทำให้ นิติกรรม การ ให้ เป็นโมฆะ เมื่อ เป็น โมฆะ แล้ว จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ซึ่ง เป็น เจ้าพนักงานผู้ได้รับ เรื่องราว ตาม มาตรา 61 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดิน ย่อม เพิกถอนการ จดทะเบียน นิติกรรม การ ให้ ได้ การ เพิกถอน การ ให้ นี้ หา จำต้อง ให้จำเลย ที่ 3 ไป ฟ้องร้อง เพื่อ เพิกถอน การ ให้ ตาม บทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วย การ เพิกถอน การ ให้ ก่อน ไม่ จำเลยที่ 1 และ ที่ 2 ซึ่ง มีอำนาจ ตาม มาตรา 61 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดินอยู่ แล้ว ย่อม เพิกถอน การ ให้ ได้ เลย คำสั่ง เพิกถอน การ ให้ ที่ดินพิพาทของ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 จึง ชอบแล้ว เมื่อ คำสั่ง เพิกถอน การ ให้ ชอบแล้วจำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ย่อม ออก ใบแทน และ จด รายการ เพิกถอน การ ให้ ไว้ใน สารบัญ โฉนด ที่ดิน เอกสาร หมาย จ. 12 ได้ ”
พิพากษายืน

Share