แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ลูกกุญแจไขประตูห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและเก็บรักษาทรัพย์ของผู้เสียหายจนเปิดออก ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์ของผู้เสียหายแล้ว แต่เมื่อผู้เสียหายพบเห็นและขัดขวางเสียก่อน จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยพยายามบุกรุกและลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ลูกกุญแจที่ทำขึ้นไขประตูห้องพักผู้เสียหายจนเปิดออก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 80, 335, 364, 365(3) และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(8) วรรคสาม, 364, 365(3) ประกอบด้วยมาตรา 80 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(8) วรรคสามประกอบด้วย มาตรา 80 ที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 จำคุก 1 ปี ริบลูกกุญแจของกลางดอกที่ไม่มียี่ห้อ 1 ดอก ของกลางอื่นนอกจากนี้ให้คืนเจ้าของ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยใช้ลูกกุญแจไขประตูห้องผู้เสียหายจนประตูเปิดออก เมื่อผู้เสียหายพบเห็นตอนแรกจำเลยอ้างว่าจำห้องผิด แต่เมื่อผู้เสียหายให้พาไปชี้ห้องที่ถูก จำเลยกลับไปเคาะที่ห้องคนอื่น เมื่อเจ้าของห้องเปิดประตูออกมาจำเลยกลับถามหาห้องที่ให้เช่าวีดีโอเทปนั้น แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่า จำเลยมีเจตนาบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์ในห้องพักของผู้เสียหายนั่นเองและการที่จำเลยใช้ลูกกุญแจไขประตูห้องซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและเก็บรักษาทรัพย์ของผู้เสียหายจนประตูเปิดออก ถือได้ว่า จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและลักทรัพย์ของผู้เสียหายแล้วแต่ผู้เสียหายพบเห็นและขัดขวางการกระทำของจำเลยเสียก่อน จำเลยจึงไม่สามารถกระทำความผิดดังกล่าวสำเร็จจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายาม ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่ตามพฤติการณ์แห่งคดีเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง จำเลยเป็นหญิงมีอาชีพการงานเป็นหลักฐานทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดอาญาและเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีต่อไปจึงสมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้ด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปีและให้คุมความประพฤติจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์