คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองเป็นครูโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี สังกัดกรมสามัญศึกษาไม่ได้สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่จำเลยทั้งสองได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ทางธุรการและการเงินของโรงเรียนผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรี สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียนซึ่งเป็นหน่วยราชการด้วยกัน ย่อมถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานและได้ปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เมื่อจำเลยทั้งสองมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาเงินที่ได้รับไว้ตามหน้าที่ไม่จัดการนำส่งประธานกรรมการเก็บรักษาเงินตามระเบียบ จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เบียดบังทรัพย์โดยทุจริต อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งความผิดดังกล่าวไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัวแม้จะร้องทุกข์เกิน 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีก็หาขาดอายุความไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๑๔๗, ๑๕๗, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๗ จำคุกคนละ ๕ ปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลย คงจำคุกคนละ ๓ ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงคงมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยคือ จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานหรือไม่และคดีขาดอายุความหรือไม่ ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า โรงเรียนผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรีอยู่ในสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้โรงเรียนวิสุทธิกษัตรี ของกรมสามัญศึกษาเป็นสถานที่ตั้ง จำเลยทั้งสองรับราชการเป็นครูโรงเรียนวิสุทธิกษัตรีทำหน้าที่ธุรการและการเงิน และยังได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ทางธุรการและการเงินของโรงเรียนผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรีด้วย โดยทำหน้าที่เก็บเงินและออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้สมัครเข้าศึกษา เกี่ยวกับเรื่องการเงินนี้จำเลยทั้งสองต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเงินของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวคือ เมื่อได้รับเงินค่าใบสมัครค่าสมัครเข้าเรียน และเงินบำรุงการศึกษาจากผู้สมัครแล้ว จะต้องออกใบเสร็จรับเงินให้แก่นักศึกษา แล้วนำใบเสร็จรับเงินไปลงบัญชีเงินสดและนำเงินส่งให้แก่ประธานกรรมการเก็บรักษาเงินของโรงเรียน แต่จำเลยทั้งสองไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้สมัครเข้าศึกษาที่ได้ชำระเงินให้แก่จำเลยทั้งสองไม่นำใบเสร็จรับเงินไปลงบัญชีเงินสด ทั้งไม่นำเงินส่งตามระเบียบ เมื่อกรรมการตรวจเงินตรวจพบ จำเลยทั้งสองจึงนำเงินมาชดใช้คืนให้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยทั้งสองเป็นข้าราชการครู แม้จำเลยทั้งสองจะเป็นครูในโรงเรียนวิสุทธิกษัตรี สังกัดกรมสามัญศึกษา ไม่ได้สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน แต่จำเลยทั้งสองก็ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ทางธุรการและการเงินของโรงเรียนผู้ใหญ่วิสุทธิกษัตรี สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน ซึ่งเป็นหน่วยราชการด้วยกัน ย่อมถือได้ว่าเป็นเจ้าพนักงานและได้ปฏิบัติราชการตามที่ได้รับมอบหมาย เมื่อจำเลยทั้งสองมีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาเงินที่ได้รับไว้ตามหน้าที่ไม่จัดการนำส่งประธานกรรมการเก็บรักษาเงินตามระเบียบจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งความผิดดังกล่าวไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้จะร้องทุกข์เกิน ๓ เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีก็หาขาดอายุความไม่
พิพากษายืน.

Share