คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว ฯ ที่ศาลพิพากษายกฟ้องแต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าข้าวสารของกลางมีคนขนย้ายไปไว้ที่ริมฝั่งทะเลติดต่อกับต่างประเทศ ตระเตรียมขนย้ายออกนอกเขต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว ริบข้าวสารของกลางได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งเจ็ดคนกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันตระเตรียมขนย้ายข้าวสารจ้าวซึ่งเป็นข้าวที่ควบคุมไปไว้ที่ชายฝั่งทะเล อันเป็นเขตห้ามขนย้ายข้าวเพื่อนำออกนอกราชอาณาจักรทะเลไปประเทศมาเลเซีย โดยไม่ได้รับหนังสืออนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๓, ๔, ๑๐, ๑๓, ๑๓ ทวิ ; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๕, ๖ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๐๓ มาตรา ๓ ประกาศคณะกรรมการสำรวจและห้ามกักกันข้าว ฉบับที่ ๙๔ พ.ศ.๒๕๑๖ ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ริบข้าวสารของกลางและสั่งจ่ายสินบนนำจับกับเงินรางวัลแก่ผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับ
จำเลยทั้งเจ็ดคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ริบข้าวสารของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๑๐, ๑๓ ทวิ; (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๖; (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๓ จำคุกคนละ ๑๐ ปี ลดกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุกคนละ ๖ ปี ๘ เดือนริบข้าวสารของกลาง จ่ายสินบนนำจับและรางวัลแก่ผู้นำจับและเจ้าพนักงานผู้จับ
จำเลยทั้งเจ็ดคนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานโจทก์ ยังฟังไม่ได้ว่าพวกจำเลยทั้งเจ็ดคนได้ร่วมกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมากระทำผิดดังฟ้อง
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ ข้าวสารของกลางข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีคนขนย้ายไปไว้ที่ริมฝั่งทะเลติดต่อกับต่างประเทศตระเตรียมขนย้ายออกนอกเขต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พุทธศักราช ๒๔๘๙ แล้ว จึงให้ริบ

Share