คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2486

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอแก้ฟ้องของโจทกล่าวข้อความลอย ๆ ว่าวันตามฟ้องโจทยังคลาดเคลื่อนอยู่ ขอแก้เปนวันอื่น เช่นนี้ ถือว่าโจทมิได้สแดงเหตุอันควนแก้ไห้สาลเห็นด้วย

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยถานลักทรัพย์ตามมาตรา +๙๕
จำเลยไห้การปติเสธ
เมื่อสาลชั้นต้นสืบคำเจ้าทรัพย์ไปบ้างแล้วยังไม่ทันหมด โจทได้ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องมีความว่า “คดีนี้โจทได้ยื่นฟ้องไว้แล้วและยังอยู่ในระหว่างสืบพยานโจท แต่ฟ้องของโจทคลาดเคลื่อนอยู่ กล่าวคือ ตามฟ้องของโจทข้อ ๑ ตอนที่กล่าวว่า “เมื่อวันที่ ๒๒ กรกดาคม ๒๔๘๕ เวลากลางคืน” นั้นผิดไปโจทจึงขอแก้เปน “เมื่อวันที่ ๓ กรกดาคม ๒๔๘๕ เวลากลางคืน” นอกจากที่กล่าวนี้ขอถือตามฟ้องเดิมทุกประการ”
สาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทไม่สแดงเหตุผลอันสมควน และที่โจทยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องเช่นนี้ ทำไห้จำเลยเสียเปรียบ จึงไม่อนุญาตไห้แก้ เมื่อสืบคำเจ้าทรัพย์หมดปากแล้ว จึงงดสืบพยาน พิพากสาว่าข้อเท็ดจิงไนทางพิจารนาต่างกับฟ้อง จึงไห้ยกฟ้อง
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสายืน
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่าการขอแก้ฟ้องก่อนมีคำพิพากสาเช่นนี้ กดหมายบัญญัติว่าเมื่อมีเหตุอันควนสาลจะสั่งอนุญาตก็ได้แต่คำร้องที่โจทขอแก้ฟ้องนี้มิได้สแดงไห้สาลเห็นว่ามีเหตุอันควนอย่างไร เปนแต่กล่าวลอยลอยว่าวันตามฟ้องของโจทยังคลาดเคลื่อนอยู่ขอแก้เปนวันอื่นเช่นนี้ นับว่าโจทมิได้สแดงเหตุอันควนไห้สาลเห็นด้วย จึงพิพากสายืนตาม

Share