แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายโดยใช้ขวานฟันและเหล็กแหลมแทง แม้ผู้เสียหายจะได้รับบาดแผลที่หน้าผาก อกด้านซ้ายและคอด้านซ้ายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย แต่บาดแผลไม่ร้ายแรงไม่อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้แสดงว่าจำเลยทั้งสองมิได้ฟันและแทงโดยแรง เมื่อขวานหลุดจากมือกระเด็นไป แล้วผู้เสียหายร้องให้คนช่วยจำเลยทั้งสองก็วิ่งหนีไปทั้ง ๆ ที่ขณะที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายไม่มีผู้ใดจะช่วยได้ จำเลยที่ 1 มีโอกาสวิ่งกลับไปเอาขวานมาฟันและจำเลยที่ 2 มีเวลาที่จะแทงผู้เสียหายให้ถึงตายได้ แต่จำเลยทั้งสองหาได้ทำเช่นนั้นไม่ สาเหตุที่จำเลยทั้งสองกับผู้เสียหายโกรธเคืองกันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองมีเพียงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83, 80และริบขวานของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83 จำคุกคนละ 12 ปีจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 9 ปีของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2อายุ 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี 4 เดือน คำรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด1 ปี 4 เดือนนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายโดยใช้ขวานฟันและเหล็กแหลมแทง แม้ผู้เสียหายจะได้รับบาดแผลที่หน้าผาก อกด้านซ้ายและคอด้านซ้ายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายก็ตาม แต่บาดแผลที่ได้รับก็ไม่ร้ายแรงไม่อาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ แสดงว่าจำเลยทั้งสองมิได้ฟันและแทงโดยแรง ทั้งยังปรากฏจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่า พอขวานหลุดจากมือกระเด็นไปแล้วผู้เสียหายร้องให้คนช่วย จำเลยทั้งสองก็พากันวิ่งหลบหนีไปทั้ง ๆ ที่ขณะที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายไม่มีผู้ใดจะช่วยได้นอกจากนางอุไรกับนางเจ็ง ซึ่งเป็นสตรีไม่มีอาวุธจะต่อสู้ป้องกัน หากจำเลยทั้งสองมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยที่ 1ก็มีโอกาสวิ่งกลับไปเอาขวานมาฟันและจำเลยที่ 2 ยังมีเวลาที่จะแทงผู้เสียหายให้ถึงตายได้ แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองหาได้ทำเช่นนั้นไม่สาเหตุที่ทำให้จำเลยทั้งสองกับผู้เสียหายโกรธเคืองกันก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ถึงขั้นที่จะเอาชีวิตกัน แสดงให้เห็นได้ว่า จำเลยทั้งสองมีแต่เพียงเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น ไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน