คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4790/2550

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องโจทก์ที่บรรยายเกี่ยวกับความผิดฐานลักทรัพย์นั้นมีความหมายว่าเหตุลักทรัพย์เกิดระหว่างเวลากลางคืนก่อนเที่ยงของวันที่ 22 มกราคม 2545 ถึงเวลากลางวันของวันเดียวกัน โดยมีคำขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 334 และมาตรา 335 มาด้วย ตามคำฟ้องโจทก์เวลาเกิดเหตุลักทรัพย์นั้นจึงอาจเป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยง หรือเวลากลางวันก็ได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ระบุว่าลักทรัพย์ในเวลากลางวันหรือในเวลากลางคืนจึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ในเวลาใดแน่ โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2545 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง ถึงวันที่ 22 มกราคม 2545 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เวลาใดไม่ปรากฏชัด มีคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าโนวา คันหมายเลขทะเบียน กงล สตูล 556 ราคาประมาณ 20,000 บาท ของนายเจ๊ะอุเส็น ก๊ะสังโรย ผู้เสียหาย ซึ่งจอดไว้ที่บริเวณหน้าคิวรถรับจ้างสายสตูล-ตำมะลัง หมู่ที่ 2 ตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล ไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ต่อมาวันที่ 22 มกราคม 2545 เวลากลางวัน หลังเกิดเหตุลักทรัพย์แล้วเจ้าพนักงานตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายได้ขณะอยู่ในความครอบครองของจำเลยเป็นของกลาง ทั้งนี้ จำเลยเป็นคนร้ายลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป หรือมิฉะนั้นจำเลยได้ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งรถจักรยานยนต์ของกลาง โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ซึ่งได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เหตุรับของโจรเกิดที่ตำบลตำมะลังและตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน รถจักรยานยนต์ของกลางผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335, 357
จำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ข้อหารับของโจรให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ให้จำคุก 2 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาทำนองว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ ถือได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ปรับบทความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 จึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ที่บรรยายเกี่ยวกับความผิดฐานลักทรัพย์นั้น มีความหมายว่าเหตุลักทรัพย์เกิดระหว่างเวลากลางคืนก่อนเที่ยงของวันที่ 22 มกราคม 2545 ถึงเวลากลางวันของวันเดียวกันโดยมีคำขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และมาตรา 335 มาด้วย เช่นนี้ ตามคำฟ้องโจทก์เวลาเกิดเหตุลักทรัพย์นั้นจึงอาจเป็นเวลากลางคืนก่อนเที่ยงหรือเวลากลางวันก็ได้ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้องโดยมิได้ระบุว่าลักทรัพย์ในเวลากลางวันหรือในเวลากลางคืน จึงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์ในเวลาใดแน่ โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางวันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 จึงชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share