คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4782/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หากเป็นความจริงตามคำร้องของจำเลยที่ว่า จำเลยได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลแรงงานเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์แล้ว จำเลยก็ไม่อาจยื่นอุทธรณ์ได้ กรณีถือได้ว่ามีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานจะพึงขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย
ศาลแรงงานไต่สวนพยานหลักฐานของจำเลยแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องของจำเลยว่าจำเลยได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลแรงงานเมื่อล่วงเลยกำหนดยื่นอุทธรณ์แล้ว ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าหากข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวกรณีถือได้ว่ามีความจำเป็น และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานจะพึงขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลย ศาลแรงงานจึงชอบจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยตามคำพิพากษาศาลฎีกา การที่ศาลแรงงานมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยดังกล่าวโดยอ้างว่าจำเลยเข้าใจเรื่องระยะเวลายื่นอุทธรณ์คดีแรงงานผิดพลาด หากขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยย่อมไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ แต่เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ศาลฎีกาเห็นสมควรสั่งคำร้องขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยเสียเองโดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานสั่งใหม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากวันที่ 8 ตุลาคม 2541 ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 120,000 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541 ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ออกไป 20 วัน นับแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2541 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดอุทธรณ์โดยอ้างเหตุว่า จำเลยที่ 2 ยื่นคำแถลงขอคัดค้านคำพิพากษาศาลแรงงานกลางตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2541 แต่เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งเหตุขัดข้องว่ายังพิมพ์คำพิพากษาไม่เสร็จ จำเลยที่ 2 เพิ่งได้รับสำเนาคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 เป็นเวลาล่วงเลยกำหนดที่จำเลยที่ 2 จะยื่นอุทธรณ์แล้ว ขอให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่จำเลยที่ 2

โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ 2 ทราบผลของคำพิพากษาแล้วจำเลยที่ 2 ปล่อยให้ระยะเวลายื่นอุทธรณ์ล่วงพ้นไป แล้วมาขอขยายระยะเวลาในภายหลัง เป็นการดำเนินคดีตามอำเภอใจ ขอให้ยกคำร้อง

ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้อง

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า หากข้อความตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ที่ว่าจำเลยที่ 2 ได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลแรงงานกลางเมื่อล่วงเลยกำหนดเวลายื่นอุทธรณ์แล้วเป็นความจริง จำเลยที่ 2 ก็ไม่อาจยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบคำพิพากษานั้น กรณีถือได้ว่ามีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานกลางจะพึงขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยที่ 2 พิพากษายกคำสั่งศาลแรงงานกลางลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2541 ให้ศาลแรงงานกลางไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

ศาลแรงงานกลางไต่สวนพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 โดยโจทก์ไม่ติดใจนำพยานเข้าสืบคัดค้านแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า ศาลแรงงานกลางอ่านคำพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2541 จำเลยที่ 2 มาฟังคำพิพากษาวันรุ่งขึ้นได้ยื่นคำแถลงขอคัดค้านคำพิพากษา แต่คำพิพากษายังพิมพ์ไม่เสร็จจนกระทั่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 จำเลยที่ 2 จึงได้รับสำเนาคำพิพากษาวันที่ 4 พฤศจิกายน 2541 จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แต่ศาลยกคำร้อง จึงได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งคือครั้งที่ศาลไต่สวนเป็นเรื่องนี้ แล้ววินิจฉัยว่า ตามคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2541 นั้น จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องว่า ศาลมีคำพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2541 ครบกำหนดที่จำเลยที่ 2ต้องยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในปัญหาข้อกฎหมายต่อศาลฎีกาในวันที่ 23ตุลาคม 2541 แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 เข้าใจว่าการยื่นอุทธรณ์ต้องยื่นภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 จึงมิได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 15 วัน ตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง บัญญัติไว้การอ้างเหตุผลขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์หลังจากพ้นระยะเวลายื่นอุทธรณ์แล้วโดยอ้างว่ายังไม่ได้รับสำเนาคำพิพากษาจึงเป็นเหตุผลเพียงเพื่อให้จำเลยพ้นความรับผิดในการไม่ยื่นอุทธรณ์หรือไม่ยื่นขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดเท่านั้น ซึ่งความเข้าใจผิดของจำเลยในข้อกฎหมายดังกล่าว ถ้าศาลให้ขยายระยะเวลาออกไปตามคำร้องแล้วก็จะไม่เป็นธรรมแก่โจทก์เช่นเดียวกัน จึงให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2ฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ว่า คำสั่งศาลแรงงานกลางที่ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541 ชอบหรือไม่ เห็นว่า ศาลแรงงานกลางไต่สวนพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 แล้วข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำร้องของจำเลยที่ 2ฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541 ว่าจำเลยที่ 2 ได้รับสำเนาคำพิพากษาศาลแรงงานกลางเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 อันเป็นเวลาล่วงเลยกำหนดยื่นอุทธรณ์แล้ว ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าหากข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวกรณีถือได้ว่ามีความจำเป็นและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่ศาลแรงงานกลางจะพึงขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยที่ 2 ศาลแรงงานกลางชอบจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่จำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลฎีกา การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 2ดังกล่าวโดยอ้างว่าจำเลยที่ 2 เข้าใจเรื่องระยะเวลายื่นอุทธรณ์คดีแรงงานผิดพลาด หากขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ย่อมไม่เป็นธรรมแก่โจทก์นั้น เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบแต่เพื่อความสะดวกรวดเร็วศาลฎีกาเห็นสมควรสั่งคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ฉบับลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2541 เสียเองโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางสั่งใหม่

พิพากษากลับว่า อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์แก่จำเลยที่ 2และเนื่องจากจำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ไว้แล้วตามอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 10พฤศจิกายน 2541 จึงให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อไป

Share