คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเข้าไปรับประทานอาหารและดื่มสุราในบาร์ที่ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการและเกิดโต้เถียงกับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่านักข่าวก็ตายได้เหมือนกัน นักข่าวกระจอก นักข่าวกิ๊กก๊อก ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายจึงไม่ใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนยิงพยายามฆ่านายป้อมเพชรหรือจุก สุคนธกนิษฐ์ ผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา๒๘๘, ๘๐
จำเลยให้การว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจริง แต่กระทำไปเพราะบันดาลโทสะ ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ จำคุก ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุก ๗ ปี ๖ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการบาร์หรือไนท์คลับที่เกิดเหตุ ในคืนวันเกิดเหตุจำเลยซึ่งมีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐประจำจังหวัดกระบี่ ได้เข้าไปรับประทานอาหารในบาร์ดังกล่าว โดยนำอาวุธปืนพกของจำเลยที่มีใบอนุญาตให้พกพาติดตัวไปด้วย เมื่อจำเลยกับพวกรับประทานสุราอาหารแล้ว จำเลยได้เดินเข้าห้องน้ำ เสร็จแล้วเดินออกจากห้องน้ำได้พบกับผู้เสียหาย ก็เกิดมีปากเสียงกันขึ้นเรื่องหนังสือพิมพ์เคยลงข่าวเกี่ยวกับบาร์ที่เกิดเหตุเป็นบาร์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วเปิดขึ้นได้โดยผู้มีอิทธิพลอยู่ข้างหลัง ผู้เสียหายพูดต่อว่าจำเลยว่าเป็นนักข่าวนึกว่าใหญ่นักหรือจึงเกิดโต้เถียงกัน โดยผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่า ‘นักข่าวก็ตายได้เหมือนกัน นักข่าวกระจอก นักข่าวกิ๊กก๊อก’ พูดเสร็จจำเลยก็ใช้ปืนของกลางยิงผู้เสียหาย ๑ นัด ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บปรากฏตามรายงานชันสูตรบาดแผลท้ายฟ้อง
ปัญหาวินิจฉัยในชั้นฎีกาคงมีเพียงว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามมาตรา ๗๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ เห็นว่าการจำเลยเข้าไปรับประทานสุราอาหารในบาร์ที่ผู้เสียหายเป็นรองผู้จัดการอยู่และเกิดโต้เถียงกับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายท้าทายจำเลยว่านักข่าวก็ตายได้เหมือนกัน นักข่าวกระจอก นักข่าวกิ๊กก๊อก ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่ในธรรม จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จึงไม่ใช่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามกฎหมายศาลอุทธรณ์ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกเจ็ดปี หกเดือน ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share