คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4751/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ศาลที่พิจารณาคดีอาญาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนแพ่งดังนั้นในการพิพากษาคดีอาญาศาลไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีแพ่งแต่ต้องฟังพยานหลักฐานโจทก์และจำเลยที่นำสืบใหม่ในคดีอาญาที่โจทก์อ้างว่าคำพิพากษาต้องผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145วรรคแรกนั้นย่อมผูกพันคู่ความเฉพาะในคดีแพ่งดังกล่าวเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 วรรคแรก, 180 วรรคแรก, 264 วรรคสอง, 268 และ 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก จำคุก 6 เดือน
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยก ฟ้อง
โจทก์ ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยนำหนังสือสัญญากู้เงินและหนังสือสัญญาค้ำประกันตามเอกสารหมายจ.1 และ จ.2 ในสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533 ของศาลชั้นต้นซึ่งโจทก์ทั้งสองได้ลงลายมือชื่อไว้ไปยื่นฟ้องโจทก์ทั้งสองต่อศาลชั้นต้น ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533 และคดีดังกล่าวได้ถึงที่สุดแล้ว โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษายกฟ้อง มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ทั้งสอง โดยโจทก์ทั้งสองฎีกาในประการแรกเป็นทำนองว่า คดีนี้ศาลจะฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533ของศาลชั้นต้น ซึ่งได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วย่อมผูกพันคู่ความในคดีนี้ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไปวินิจฉัยข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ย่อมเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533ของศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องทางแพ่งขอให้จำเลยทั้งสอง (โจทก์ทั้งสองคดีนี้) รับผิดชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินและสัญญาค้ำประกันอันเป็นสิทธิเรียกร้องโดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดเนื่องจากการกระทำผิดอาญา และไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ศาลที่พิจารณาคดีอาญาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ดังนั้นในการพิพากษาคดีนี้ศาลไม่จำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533 ของศาลชั้นต้นดังกล่าว แต่ต้องฟังพยานหลักฐานโจทก์ทั้งสองและจำเลยที่นำสืบใหม่ในคดีนี้ ที่โจทก์ทั้งสองอ้างว่าคำพิพากษาต้องผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคแรกนั้นเห็นว่า ย่อมผูกพันคู่ความเฉพาะในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1255/2533ของศาลชั้นต้นเท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยโดยยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่นั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมายตามที่โจทก์ทั้งสองฎีกา ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share