คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4750/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

วันนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต เมื่อถึงวันนัดทนายโจทก์มอบฉันทะให้ ก. เสมียนทนายยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีก โดยในใบมอบฉันทะมีใจความว่า ทนายโจทก์ขอมอบฉันทะให้ ก. เสมียนทนายทำการแทนโดยทนายโจทก์ยอมรับผิดในการที่ผู้รับมอบฉันทะได้ทำไปทุกประการในกิจการเกี่ยวกับการยื่นคำร้อง ฟังคำสั่ง และกำหนดวันนัดแทนเช่นนี้ การแต่งตั้ง ก. เสมียนทนายให้มาทำการแทนทนายโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบด้วยมาตรา 64 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ในวันนัดดังกล่าวผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์จึงมาศาลในฐานะผู้ทำการแทนทนายโจทก์ กรณีไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง เพราะคำว่าโจทก์ในบทกฎหมายดังกล่าวย่อมหมายความรวมไปถึงทนายโจทก์ด้วยการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์นำตัวโจทก์มาศาลและให้ทนายโจทก์จัดหาทนายความคนอื่นมาว่าความแทน โดยไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์จึงโทรศัพท์ติดต่อกับทางสำนักงานแล้วแถลงต่อศาลว่า โจทก์ขอเลื่อนคดีไปในเวลาบ่ายเพื่อติดตามพยาน เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีจากเวลาเข้าไปเวลาบ่ายวันเดียวกันดังกล่าว ก็จะถือว่าการเป็นผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์สิ้นสุดลงไปแล้วในเวลาเช้าหาได้ไม่ เมื่อถึงเวลานัดผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์แถลงว่า ทนายโจทก์ไม่มาศาลและขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตและถือว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนด จึงให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคหนึ่ง จึงเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาผู้ปกครองของนางสาวจุฬาลักษณ์ รัตนาชาตรี เมื่อระหว่างเดือนพฤษภาคม 2533และระหว่างเดือนตุลาคม 2533 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยทั้งสองเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นได้ร่วมกันจัดหาและชักพาไปเพื่อการอนาจาร โดยพานางสาวจุฬาลักษณ์ซึ่งมีอายุไม่เกิน 18 ปี ไปไว้ที่บ้านของจำเลยทั้งสองเพื่อให้นายแสงชัย นราเกษแก้ว กระทำชำเราขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282 วรรคสอง, 90, 91, 83
ในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกในวันที่ 13 ธันวาคม 2534 เวลา 8.30 นาฬิกา ต่อมาในวันที่4 ธันวาคม 2534 โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปเป็นวันที่ 26 ธันวาคม 2534 เวลา 9 นาฬิกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตเมื่อถึงวันนัดทนายโจทก์มอบฉันทะให้นายกงจักร์ จันทราทิพย์เสมียนทนายยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีก โดยอ้างว่าติดว่าความที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการซึ่งได้นัดไว้ก่อน ไม่สามารถมาศาลได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์นำตัวโจทก์มาศาลและให้ทนายโจทก์จัดหาทนายความคนอื่นมาว่าความแทน ศาลจะไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์ได้โทรศัพท์ติดต่อกับทางสำนักงานแล้วแถลงต่อศาลว่า โจทก์ขอเลื่อนคดีไปในเวลาบ่ายเพื่อติดตามพยาน ศาลชั้นต้นให้เลื่อนคดีไปไต่สวนมูลฟ้องในเวลาบ่ายเมื่อถึงเวลานัดผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์แถลงว่า ทนายโจทก์ไม่มาศาลและขอเลื่อนคดีไปนัดไต่สวนในวันที่ 27 ธันวาคม 2534เวลา 8.30 นาฬิกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต และถือว่าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนด จึงให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166 วรรคหนึ่ง เห็นว่า ตามความในบทบัญญัติของมาตรา 166 วรรคหนึ่ง ดังกล่าว ถ้าโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดให้ศาลมีอำนาจยกฟ้องโจทก์เสียได้ คำว่าโจทก์ในบทกฎหมายดังกล่าวย่อมหมายความรวมไปถึงทนายโจทก์ด้วย คดีนี้ปรากฏว่าในวันที่26 ธันวาคม 2534 ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีไปโดยได้ยื่นใบมอบฉันทะมาด้วย ใบมอบฉันทะมีใจความว่า ทนายโจทก์ขอมอบฉันทะให้นายกงจักร์ จันทราทิพย์ เสมียนทนายทำการแทน โดยทนายโจทก์ยอมรับผิดชอบในการที่ผู้รับมอบฉันทะได้ทำไปทุกประการ ในกิจการเกี่ยวกับการยื่นคำร้อง ฟังคำสั่ง และกำหนดวันนัดแทน เช่นนี้การแต่งตั้งนายกงจักร์เสมียนทนายให้มาทำการแทนทนายโจทก์จึงเป็นไปโดยชอบด้วยมาตรา 64 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ในวันนัดดังกล่าวเสมียนทนายโจทก์จึงมาศาลในฐานะผู้ทำการแทนทนายโจทก์กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าโจทก์ไม่มาศาลตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง และการที่ศาลชั้นต้นให้เลื่อนคดีไปเวลาบ่ายในวันเดียวกันดังกล่าว ก็จะถือว่าการเป็นผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์สิ้นสุดลงไปแล้วในเวลาเข้าหาได้ไม่ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนมานั้นจึงเป็นการไม่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าว
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

Share