คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4749/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 ปรากฏว่าจำเลยกับนาย ส.กับพวกอีกคนหนึ่งนำรถยนต์ไปรอดักฉุดผู้เสียหายขณะผู้เสียหายออกจากหอพักเพื่อจะไปซื้อของ และเมื่อขึ้นไปบนรถแล้วนาย ส.ใช้อาวุธปืนขู่บังคับไม่ให้ผู้เสียหายร้อง และได้พาไปกักขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ถือได้ว่าจำเลยกับนาย ส.เป็นตัวการร่วมกระทำผิดด้วยกัน แม้การพาผู้เสียหายไปนั้นเพื่อสำเร็จความใคร่ของนาย ส. และเพื่อการอนาจารผู้เสียหายก็ตาม การกระทำของจำเลยก็หาเป็นความผิดตามมาตรา 283 ตามฟ้องไม่ เพราะความผิดตามมาตรา 283 นั้น ต้องเป็นกรณีที่เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น ถ้าเป็นกรณีที่กระทำไปเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้กระทำนั้นเอง หรือร่วมกันกระทำเพื่อผู้ใดในบรรดาผู้ร่วมกระทำด้วยกันแล้วก็หาเป็นความผิดตามมาตรานี้ไม่ เมื่อจำเลยและนาย ส.กับพวกร่วมกันพาผู้เสียหายไปเพื่อสำเร็จความใคร่ของนาย ส.ไม่ได้ร่วมกันพาไปเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นใด จึงจะแยกการกระทำที่ประกอบร่วมกันนี้ให้ตกเป็นความผิดแก่จำเลยว่าพาผู้เสียหายไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นไม่ใช่ของตนหาได้ไม่

Share