คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4716/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

หนี้ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระเป็นหนี้ค่าเช่าและหนี้อย่างอื่นซึ่งมีกำหนดระยะเวลาให้ชำระโดยกำหนดระยะเวลาให้ชำระตั้งแต่งวดที่ 14 ประจำวันที่ 20 มกราคม 2538เป็นต้นไป จึงมิใช่ได้กำหนดระยะเวลาให้ชำระก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2537 แต่เป็นการกำหนดระยะเวลาให้ชำระภายหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ดังกล่าวได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 99

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2537 ต่อมาวันที่ 29 กรกฎาคม 2537 เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเป็นเงิน 513,964 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้รายละเอียดปรากฏตามบัญชีท้ายคำขอรับชำระหนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดให้บรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า มูลแห่งหนี้เกิดขึ้นภายหลังจากลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จึงเป็นหนี้ที่ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94 เห็นควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เสียทั้งสิ้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

เจ้าหนี้อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

เจ้าหนี้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ความว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2536 นางสาวภุมรี ยนตจักรวิถี เช่าซื้อรถยนต์ไปจากเจ้าหนี้ในราคา 560,688 บาท ตกลงชำระ 48 งวด งวดละ 11,681 บาท ต่อเดือน เริ่มชำระงวดแรกวันที่ 20 ธันวาคม 2536 งวดต่อไปภายในวันที่ 20 ของเดือนจนกว่าจะครบโดยมีลูกหนี้เป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดร่วมกับนางสาวภุมรีอย่างลูกหนี้ร่วม นางสาวภุมรีผิดนัดชำระเช่าซื้อตั้งแต่งวดที่ 14 ประจำวันที่ 20 มกราคม 2538 เป็นต้นไป คงเหลือค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระเป็นเงิน 408,835 บาท ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สัญญาค้ำประกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2536 ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดวันที่ 26 เมษายน2537 ถือได้ว่ามูลแห่งหนี้ได้เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเจ้าหนี้จึงอาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94แต่เจ้าหนี้ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 99เพราะค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระดังกล่าวเป็นหนี้ค่าเช่าและหนี้อย่างอื่นซึ่งมีกำหนดระยะเวลาให้ชำระภายหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ดังนี้ ศาลอุทธรณ์หาได้วินิจฉัยว่ามูลแห่งหนี้เกิดขึ้นภายหลังที่ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เป็นหนี้ที่ต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94 ดังเจ้าหนี้ฎีกาไม่ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของเจ้าหนี้เพียงประการเดียวว่า เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เพราะหนี้ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระได้กำหนดให้ชำระก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ เห็นว่า หนี้ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระเป็นหนี้ค่าเช่าและหนี้อย่างอื่นซึ่งมีกำหนดระยะเวลาให้ชำระโดยกำหนดระยะเวลาให้ชำระตั้งแต่งวดที่ 14 ประจำวันที่ 20 มกราคม 2538 เป็นต้นไป จึงหาใช่ได้กำหนดระยะเวลาให้ชำระก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2537 ไม่ แต่เป็นการกำหนดระยะเวลาให้ชำระภายหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้จึงไม่อาจขอรับชำระหนี้ดังกล่าวได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 99ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”

พิพากษายืน

Share