คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4716/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในการเล่นการพนันบิลเลียด มีคนมุงดูเพื่อเล่นการพนันประมาณ40-50 คน หลังจากผู้เล่นแทงลูกบิลเลียดลงรูแล้วคนเล่นที่ยืนรอบโต๊ะได้จ่ายเงินกัน เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุมผู้แทงบิลเลียดพร้อมเงินสินพนันถึง 500 บาท ซึ่งมิใช่การเล่นพนันบิลเลียดเฉพาะตัวผู้แทงเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการเล่นการพนันบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคมไม่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวง ฉบับที่ 18 ข้อ 5ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรค 3ดังนั้นบรรดาเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันก็ต้องริบตามพระราชบัญญัติ การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยทั้งสองฐานเล่นการพนันบิลเลียดและริบลูกบิลเลียด 1 ชุด ไม้คิว 4 อัน โต๊ะบิลเลียด 1 ตัว เงินสด500 บาท ซึ่งเป็นของกลาง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนของกลางนอกจากเงิน 500 บาท อ้างว่าเป็นเจ้าของและไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดโจทก์คัดค้านคำร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าของกลางเป็นของผู้ร้อง คงมีปัญหาว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดหรือไม่ ปัญหานี้ ผู้ร้องนำพยานเข้าสืบ 3 คนนายอำพล คณานับ เบิกความว่า ตามปกติพยานไม่ค่อยได้อยู่ดูแลสมาคมแต่มอบหมายให้นายสุทัศน์ กรกมลพฤกษ์ ผู้ช่วยเป็นผู้ดูแลในคืนเกิดเหตุพยานก็ไม่อยู่เพิ่งทราบในวันรุ่งขึ้น นายสุทัศน์เบิกความว่าเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยในสมาคม ภายในสมาคมมีประกาศห้ามเล่นการพนัน ปรากฏตามเอกสารหมาย ร.4 ร.5 ตามวันเกิดเหตุพยานไม่ได้อยู่ที่สมาคม กลับบ้านไปแล้ว ทราบในวันรุ่งขึ้นนายสมโภชน์ เทพสำเริง เบิกความว่า ผู้ช่วยผู้จัดการสมาคมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ เจ้าหน้าที่เป็นคนตั้งลูก แต่มิได้จดแต้มตามที่พยานฝ่ายผู้ร้องนำสืบมา แม้ว่าผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการจะไม่อยู่ที่สมาคมแล้ว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ของสมาคมดูแลอยู่ซึ่งตามปกติก็น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะมิฉะนั้นแล้วผู้ใดจะเป็นผู้เก็บค่าเกม เก็บอุปกรณ์การเล่นและทำการปิดเปิดสมาคม คงจะไม่ปล่อยให้คนเล่นการพนันเล่นกันเองโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ของสมาคมเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของสมาคมอยู่ดูแลก็ต้องรู้ว่า มีการเล่นการพนันกัน เจ้าหน้าที่ของสมาคมเห็นคนเล่นใช้อุปกรณ์และโต๊ะบิลเลียดของสมาคมเล่นการพนันแล้วไม่ได้ว่ากล่าวห้ามปราม ก็ถือได้ว่าทางสมาคมผู้ร้องผู้เห็นเป็นใจในการเล่นการพนันในสมาคมนั้นทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่า ในการเล่นการพนันบิลเลียดดังกล่าวมีคนมุงดูเพื่อเล่นการพนันประมาณ 40-50 คน หลังจากผู้เล่นแทงลูกบิลเลียดลงรูแล้ว คนเล่นที่ยืนรอบโต๊ะได้จ่ายเงินกันเจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุมผู้แทงบิลเลียด พร้อมเงินสินพนันถึง 500 บาท ซึ่งมิใช่การเล่นพนันบิลเลียดเฉพาะตัวผู้แทงเท่านั้นจึงถือไม่ได้ว่า เป็นการเล่นการพนันบิลเลียดเพื่อความรื่นเริงในสมาคม ไม่อยู่ในบังคับของกฎกระทรวง ฉบับที่ 18 ข้อ 5 ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรค 3 ดังนั้นบรรดาเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนันก็ต้องริบตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 10 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1) ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของผู้ร้อง จึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share