แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยที่ 2 จับเก้าอี้เหล็กกลมไม่มีพนักแล้วกระแทกปลายขาเก้าอี้ซึ่งเป็นเหล็กกลวงไม่มียางหุ้มไปที่ศีรษะอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของผู้ตายโดยแรง ทำให้กะโหลกศีรษะใต้บาดแผลยุบขนาด 3+2.5 ซ.ม. นั้น จำเลยที่ 2 ย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนได้ว่าจะเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
แม้จำเลยที่ 1 จะมีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 2 และพวกรุมทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้น แต่จำเลยที่ 1 กับพวกตามจำเลยที่ 2ออกไปทำร้ายผู้ตายโดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน และไม่มีอาวุธติดตัวแต่อย่างใด และการทำร้ายของจำเลยที่ 1 ก็เพียงชกต่อยผู้ตายโดยจำเลยที่ 1 ไม่เคยมีสาเหตุกับผู้ตายด้วย จำเลยที่1 คงมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายเท่านั้น ยังไม่ถึงกับเป็นความผิดฐานร่วมกับผู้อื่นฆ่าผู้ตาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันใช้มือเท้าและเก้าอี้เหล็กเป็นอาวุธชกต่อยเตะและตีนายบักกิมหลายที่โดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้นายบักกิมถึงแก่ความตายและจำเลยที่ 2 ได้ใช้เก้าอี้เหล็กเป็นอาวุธตีนายเจริญเป็นเหตุให้นายเจริญได้รับอันตรายแก่กายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 295, 83,91
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 83 ลงโทษจำคุกคนละตลอดชีวิตข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290, 83 ให้จำคุก 7 ปีจำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ให้จำคุก 20 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยทั้งสองต่างฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเมื่อจำเลยทั้งสองกับพวกไล่ทำร้ายผู้ตายเข้าไปในร้านนางเขตต์จำเลยที่ 1 กับพวกได้รุมชกต่อยผู้ตายส่วนจำเลยที่ 2 ได้ใช้เก้าอี้เหล็กกลมไม่มีพนักตีทำร้ายผู้ตายหลายทีบาดแผลที่ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายคือที่กลางศีรษะมีบาดแผลฉีกขาดขนาด 2X1.5 เซนติเมตรกะโหลกศีรษะใต้บาดแผลแตกยุบขนาด 3X2.5 เซนติเมตรมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองสมองส่วนขวาด้านข้างและบนฉีกขาดเละประกอบกับเก้าอี้เหล็กกลมของกลางตัวหนึ่งที่ปลายขาของเก้าอี้ข้างหนึ่งเป็นเหล็กกลวงไม่มียางหุ้มมีเศษเนื้อและหนังศีรษะติดอยู่เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้จับเก้าอี้เหล็กกลมดังกล่าวตีในลักษณะกระแทกปลายขาเก้าอี้ซึ่งเป็นเหล็กกลวงไม่มียางหุ้มลงไปที่ศีรษะผู้ตายแม้เก้าอี้เหล็กของกลางโดยสภาพจะไม่เป็นอาวุธก็ตามแต่การที่จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปลายขาเก้าอี้ซึ่งเป็นเหล็กกลวงตีกระแทกไปที่ศีรษะของผู้ตายอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกายจนกลางศีรษะผู้ตายฉีกขาดกะโหลกใต้บาดแผลดังกล่าวยุบขนาด 3X2.5 เซนติเมตรแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 ได้ตีกระแทกโดยแรงซึ่งจำเลยที่ 2 ย่อมจะเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนได้ว่าจะเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจำเลยที่ 2 จึงต้องมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาส่วนจำเลยที่ 1 ซึ่งมีเจตนาร่วมกับจำเลยที่ 2 และพวกทำร้ายผู้ตายมาแต่ต้นแม้จำเลยที่ 1 จะเพียงชกต่อยผู้ตายก็ตามแต่เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการรุมทำร้ายของพวกจำเลยจำเลยที่ 1 ก็ต้องมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายด้วยและเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองกับพวกไล่ชกต่อยผู้ตายผู้ตายวิ่งหนีจำเลยทั้งสองกับพวกก็ตามเข้าไปทำร้ายผู้ตายถึงในร้านนางเขตต์ ดังนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจเข้าร่วมชุลมุนต่อสู้ดังที่จำเลยที่ 2 อ้าง
ที่โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานร่วมกับพวกฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้นพยานหลักฐานของโจทก์ได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 1 กับพวกตามจำเลยที่ 2 ออกไปไล่ทำร้ายผู้ตายโดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อนและไม่มีอาวุธติดตัวแต่อย่างใดการทำร้ายของจำเลยที่ 1 ก็เพียงแต่ชกต่อยผู้ตายทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยมีสาเหตุกับผู้ตายด้วยพฤติการณ์จึงยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
พิพากษายืน.