แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พนักงานสอบสวนไม่จำต้องแจ้งข้อหาทุกกระทงความผิดแม้เดิมตั้งข้อหาหนึ่งแต่เมื่อสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นความผิดข้อหาอื่นด้วยก็เรียกว่ามีการสอบสวนในความผิดข้อหาหลังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา120และศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดข้อหานี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม พระราชบัญญัติ ป่าไม้ พ.ศ. 2488มาตรา 11, 48, 69, 73, 74, 74 ทวิ , 74 จัตวา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 ริบของกลาง ทั้งหมด และ จ่าย สินบน นำ จับ แก่ ผู้นำจับตาม กฎหมาย
จำเลย ทั้ง เจ็ด ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง เจ็ด มี ความผิด ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง 48 วรรคหนึ่ง 69 วรรคสอง (1)(2)73 วรรคสอง (1)(2) เป็น การกระทำ ต่าง กรรม ต่าง วาระ ให้ เรียง กระทง ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แม้ จำเลย ที่ 3 ที่ 4 และ ที่ 5อายุ ไม่เกิน 20 ปี แต่ ไม่สมควร ลด มาตรา ส่วน โทษ ให้ ฐาน ร่วมกัน ทำ ไม่ให้จำคุก จำเลย ที่ 1 ไว้ 14 ปี ส่วน จำเลย อื่น ให้ จำคุก คน ละ 10 ปี ฐานร่วมกัน แปรรูป ไม้ ให้ จำคุก จำเลย ที่ 1 ไว้ 10 ปี จำเลย อื่น ให้ จำคุกคน ละ 6 ปี ฐาน มี ไม้แปรรูป ไว้ ใน ครอบครอง ให้ จำคุก จำเลย ที่ 1 ไว้ 10 ปีส่วน จำเลย อื่น ให้ จำคุก คน ละ 6 ปี ฐาน มี ไม้ ยัง มิได้ แปรรูป ไว้ ในครอบครอง ให้ จำคุก จำเลย ที่ 1 ไว้ 8 ปี ส่วน จำเลย อื่น ให้ จำคุก คน ละ 4ปี จำเลย ทั้ง เจ็ด ให้การรับสารภาพ ชั้น จับกุม และ ชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ แก่ การ พิจารณา คดี มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ คน ละ หนึ่ง ใน สามตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง ลงโทษ จำเลย ที่ 1 ไว้ กระทง ละ 9 ปี4 เดือน 6 ปี 8 เดือน 6 ปี 8 เดือน และ 5 ปี 4 เดือน รวม จำคุก จำเลยที่ 1 มี กำหนด 26 ปี 24 เดือน ส่วน จำเลย อื่น จำคุก กระทง ละ 6 ปี 8เดือน 4 ปี 4 ปี และ 2 ปี 8 เดือน รวม จำคุก จำเลย ที่ 2 ถึง ที่ 7 คน ละ16 ปี 16 เดือน ริบของกลาง ทั้งหมด ส่วน คำขอ ให้ จ่าย สินบน แก่ ผู้นำจับนั้น เมื่อ ศาล มิได้ ลงโทษ ปรับ จึง ให้ยก คำขอ ส่วน นี้
จำเลย ทั้ง เจ็ด อุทธรณ์
ใน ระหว่าง พิจารณา ของ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จำเลย ที่ 1 ขอ ถอน อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 อนุญาต ให้ จำหน่ายคดี เฉพาะ อุทธรณ์ ของ จำเลย ที่ 1
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย ที่ 3 ที่ 4 และ ที่ 5อายุ กว่า สิบ เจ็ด ปี แต่ ยัง ไม่เกิน ยี่สิบ ปี สมควร ลด มาตรา ส่วน โทษ ให้หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐาน ร่วมกัน ทำ ไม้ ให้จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ 7 ปี จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4ที่ 5 คน ละ 4 ปี 8 เดือน ฐาน ร่วมกัน แปรรูป ไม้ ให้ จำคุก จำเลย ที่ 1ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ 6 ปี จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 4 ปีฐาน ร่วมกัน มี ไม้แปรรูป ไว้ ใน ครอบครอง จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6ที่ 7 คน ละ 6 ปี จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 4 ปี ฐาน ร่วมกันมี ไม้ ยัง ไม่ แปรรูป ไว้ ใน ครอบครอง จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7คน ละ 4 ปี จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 2 ปี 8 เดือน จำเลยทั้ง เจ็ด ให้การรับสารภาพ ใน ชั้นสอบสวน เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณามีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ คน ละ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐาน ร่วมกัน ทำ ไม้ จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ4 ปี 8 เดือน จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 3 ปี 1 เดือน 10 วันฐาน ร่วมกัน แปรรูป ไม้ จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ 4 ปีจำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 2 ปี 8 เดือน ฐาน ร่วมกัน มี ไม้แปรรูป ไว้ ใน ครอบครอง จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ 4 ปีจำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 2 ปี 8 เดือน ฐาน ร่วมกัน มี ไม้ ยังไม่ แปรรูป ไว้ ใน ครอบครอง จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ2 ปี 8 เดือน จำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 1 ปี 9 เดือน 10 วันรวม 4 กระทง จำคุก จำเลย ที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 คน ละ 14 ปี 16 เดือนจำคุก จำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 คน ละ 8 ปี 26 เดือน 20 วัน นอกจาก ที่แก้ คง ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ที่ 4 ที่ 7 ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ซึ่ง พิจารณา และ ลงชื่อ ในคำพิพากษา ศาลชั้นต้น อนุญาต ให้ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ปัญหา ต่อไป มี ว่า การ ที่ ศาล ลงโทษ จำเลย ที่ 4และ ที่ 7 รวม 4 กระทง นั้น เป็น การ ชอบ หรือไม่ เห็นว่า การ แจ้ง ข้อหาให้ จำเลย ทราบ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 นั้นหา ได้ หมายความ ว่า พนักงานสอบสวน จะ ต้อง แจ้ง ข้อหา ทุกกระทง ความผิดไม่ แม้ เดิม ตั้ง ข้อหา หนึ่ง แต่เมื่อ สอบสวน แล้ว ปรากฏว่า การกระทำ ของจำเลย เป็น ความผิด ข้อหา อื่น ด้วย ก็ เรียก ได้ว่า มี การ สอบสวน ใน ความผิดข้อหา หลัง ตาม นัย แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 120แล้ว ทั้ง การ ทำ ไม้หวงห้าม การ แปรรูป ไม้ ใน เขตควบคุม การ มี ไม้แปรรูปไว้ ใน ครอบครอง และ การ มีไว้ ครอบครอง ซึ่ง ไม้หวงห้าม อัน ยัง มิได้ แปรรูปโดย มิได้ รับ อนุญาต จาก พนักงาน เจ้าหน้าที่ เป็น การกระทำ อันเป็น ความผิดต่าง กรรม กัน ดังนั้น แม้ จะ มิได้ มี การ แจ้ง ข้อหา จำเลย ที่ 4 และ ที่ 7ฐาน มีไว้ ใน ครอบครอง ซึ่ง ไม้หวงห้าม อัน ยัง มิได้ แปรรูป แต่เมื่อ สอบสวนแล้ว ปรากฏว่า การกระทำ ของ จำเลย เป็น ความผิด ข้อหา นี้ ด้วย ก็ เรียกได้ว่า มี การ สอบสวน ใน ความผิด ข้อหา นี้ แล้ว โจทก์ มีอำนาจ ฟ้อง ศาล มีอำนาจ ลงโทษ จำเลย ที่ 4 และ ที่ 7 ใน ความผิด ข้อหา นี้ ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ลงโทษ จำเลย ที่ 4 และ ที่ 7 รวม 4 กระทง ชอบแล้วฎีกา จำเลย ที่ 4 และ ที่ 7 ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน