คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ระบุมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477มาในคำขอท้ายฟ้อง. แต่ปรากฏว่าตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า จำเลยขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 100กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น มิได้กล่าวหาว่าจำเลยขับรถเร็วเกินอัตราซึ่งกำหนดไว้ในกฎหมายจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตราดังกล่าวไม่ได้
การที่จำเลยขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายแก่กายนั้น เป็นกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ไม่ใช่ความผิดหลายกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2513 เวลากลางคืน จำเลยขับรถยนต์ด้วยความประมาท โดยขับด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใกล้จะถึงทางแยกซึ่งมีด่านตรวจรถยนต์และมีเครื่องหมายสัญญาณไฟแดงติดตั้งไว้ จำเลยควรชะลอความเร็วให้น้อยลงเมื่อถึงด่านตรวจจะได้หยุดได้ทัน จำเลยกลับขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงเรื่อยมา เป็นเหตุให้รถยนต์ที่จำเลยขับไป ชนท้ายรถบรรทุกไม้ไผ่และพลิกหงายอยู่กลางถนน ผู้ที่นั่งในรถยนต์ที่จำเลยขับถึงแก่ความตายและบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2477 มาตรา 28, 29, 66 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2481 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508มาตรา 7, 13

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 28, 29, 66พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2481 มาตรา 4 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 7, 13 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุดตามมาตรา 91 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยขับรถโดยประมาทจริง ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น แต่ที่โจทก์ระบุมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พุทธศักราช 2477มาในคำขอท้ายฟ้องด้วยนั้น ปรากฏว่าตามคำบรรยายฟ้องกล่าวแต่เพียงว่าจำเลยขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นโจทก์มิได้กล่าวหาว่าจำเลยขับรถเร็วเกินอัตราซึ่งได้กำหนดไว้ในกฎหมาย จะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตราดังกล่าวหาได้ไม่ และการที่จำเลยขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายแก่กายนั้น ก็เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทมิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพุทธศักราช 2477 มาตรา 29, 66 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2508 มาตรา 7, 13 ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 ให้จำคุกจำเลย1 ปี 6 เดือน

Share