แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โรงงานยาสูบ ซึ่งขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลัง ไม่ใช่เป็นนิติบุคคล เมื่อกระทรวงการคลังได้มอบอำนาจการบริหารกิจการงานต่าง ๆ ให้ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบแล้ว กระทรวงการคลังก็ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ากระทรวงการคลังเป็นนิติบุคคลได้มอบอำนาจให้หลวงชำนาญยุทธศิลป์ในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงงานยาสูบดำเนินคดีนี้ โดยกล่าวว่าเมื่อ ๒ ส.ค.๒๔๙๗ นายประเสริฐ อยู่สุขได้เข้าทำงานเป็นพนักงานขับรถในโรงงานยาสูบ สังกัดกระทรวงการคลังจำเลยได้ทำสัญญารับรองและ ค้ำประกันไว้ว่า หากนายประเสริฐ อยู่สุขปฏิบัติงานในหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น จำเลยยอมชดใช้เงินไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทภายใน ๓ วัน ครั้น ๘ มี.ค.๒๔๙๘ นายประเสริฐ อยู่สุขขับรถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ชนต้นก้ามปูเสียหาย ๓๔,๔๓๐ บาท จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินโจทก์ ๕,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าผู้อำนวยการยาสูบเป็นคู่สัญญากับจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และนายประเสิรฐ อยู่สุข มิได้รับมอบหมายให้ขับรถยนต์ไปในหน้าที่ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
โจทก์จำเลยรับกันว่า นายประเสริฐ อยู่สุข ขับรถยนต์ชนต้นก้ามปูเสียหายตามฟ้อง โดยขับรถยนต์ออกนอกเส้นทางที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง คดีไม่มีการสืบพยาน
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง แต่โจทก์มิได้นำสืบว่า นายประเสริฐ อยู่สุข ได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่อันจะทำให้จำเลยต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกาเพียงอำนาจฟ้องและไม่ต้องรับผิด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โรงงานยาสูบไม่ได้เป็นิติบุคคล แต่ขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลังซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่ขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลังซึ่งเป็นนิติบุคคล การบริหารกิจการงานต่าง ๆ ที่ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบได้กระทำไปโดยได้รับมอบอำนาจจากกระทรวงการคลัง เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแก่ทรัพย์สินของโรงงานยาสูบ ได้กระทำต่อผู้อำนวยการโรงงานยาสูบในฐานะที่ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลังจึงมีอำนาจฟ้อง และให้จำเลยรับผิดพิพากษายืน