คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นว่าให้จำคุกตลอดชีวิต เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย และให้จำคุกจำเลยเกินห้าปี โจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคสอง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84, 288
จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 จำเลยที่ 5 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 84 ลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งห้าลดโทษให้จำเลยที่ 5 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 5 ตลอดชีวิต
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยทั้งห้าตลอดชีวิตลดโทษให้จำเลยที่ 5 หนึ่งในสามเป็นจำคุก 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งห้าได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ ส่วนฎีกาของโจทก์นั้น โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าให้หนักขึ้น เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้งห้าลดโทษให้จำเลยที่ 5 หนึ่งในสาม คงจำคุกตลอดชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะโทษเป็นว่า ให้จำคุกจำเลยทั้งห้าไว้ตลอดชีวิตและลดโทษให้จำเลยที่ 5 หนึ่งในสาม คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อยและให้จำคุกจำเลยเกินห้าปี โจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2532 มาตรา 11การที่โจทก์ฎีกาคัดค้านดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน.

Share