แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในวันนัดสืบพยานนัดแรกซึ่งเป็นการนัดสืบพยานจำเลยทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าไม่สามารถมาศาลได้เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดมีอาการปวดศีรษะไอเจ็บคออ่อนเพลียโจทก์รับสำเนาคำร้องแล้วแถลงคัดค้านว่าทนายจำเลยไม่ป่วยจริงดังนั้นศาลชอบที่จะดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา41วรรคหนึ่งคือตั้งเจ้าพนักงานไปทำการตรวจทนายจำเลยหรือให้แพทย์ไปตรวจด้วยแล้วพิจารณาจากรายงานของผู้ที่ศาลตั้งให้ไปตรวจดังกล่าวหากเชื่อว่าทนายจำเลยป่วยจริงก็อนุญาตให้เลื่อนคดีไปตามขอแต่หากอาการป่วยไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ก็ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการขาดนัดหรือการไม่มาศาลของทนายจำเลยการที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไปในทันทีว่าไม่น่าเชื่อว่าทนายจำเลยจะป่วยถึงขนาดมาศาลไม่ได้จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบโดยไม่ได้ดำเนินการไต่สวนหรือตั้งผู้ใดไปตรวจสอบจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค 2 ฉบับ ซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับ ขอให้บังคับจำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 658,362 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช้ผู้ทรงเช็คพิพาท เช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยสั่งจ่ายให้แก่นายธานีเพื่อค้ำประกัน และมูลเหตุที่ค้ำประกันสิ้นสุดลงแล้ว โจทก์ได้กระทำการฉ้อฉลนำเช็คทั้งสองฉบับของจำเลยไปเรียกเก็บเงินขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าทนายจำเลยป่วยไม่สามารถมาศาลได้ ทนายโจทก์แถลงคัดค้านว่าทนายจำเลยไม่ป่วยจริงศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อคัดค้านของทนายโจทก์มีเหตุผลและทนายจำเลยไม่ได้ส่งใบรับรองแพทย์มาพร้อมคำร้อง ไม่น่าเชื่อว่าทนายจำเลยจะป่วยถึงขนาดมาศาลไม่ได้ จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ กับเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ให้งดสืบพยานโจทก์ แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 658,362 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดี แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาของโจทก์มีว่าสมควรจะให้จำเลยเลื่อนคดีหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรกทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายจำเลยไม่สามารถมาศาลได้เนื่องจากเป็นไข้หวัดมีอาการปวดศีรษะ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย โจทก์รับสำเนาคำร้องแล้วแถลงคัดค้านว่าทนายจำเลยไม่ป่วยจริงเห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 41 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าถ้ามีการขอเลื่อนการนั่งพิจารณาโดยอ้างว่าตัวความ ผู้แทนทนายความ พยานหรือบุคคลอื่นที่ถูกเรียกให้มาศาลไม่สามารถมาศาลได้เพราะป่วยเจ็บ เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคำขอฝ่ายเดียว ศาลจะมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานไปทำการตรวจก็ได้ และถ้าสามารถหาแพทย์ได้ก็ให้ตั้งแพทย์ไปตรวจด้วย ถ้าผู้ที่ศาลตั้งให้ไปตรวจได้รายงานโดยสาบานตนหรือกล่าวคำปฏิญาณแล้วและศาลเชื่อว่าอาการของผู้ที่อ้างว่าป่วยนั้นไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการขาดนัดหรือการไม่มาศาลของบุคคลที่อ้างว่าป่วยนั้น แล้วแต่กรณี ฉะนั้นกรณีนี้เมื่อโจทก์คัดค้าน ศาลชอบที่จะดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวกล่าวคือตั้งเจ้าพนักงานไปทำการตรวจทนายจำเลย หรือให้แพทย์ไปตรวจด้วยแล้วพิจารณาจากรายงานของผู้ที่ศาลตั้งให้ไปตรวจดังกล่าวหากเชื่อว่าทนายจำเลยป่วยจริงก็อนุญาตให้เลื่อนคดีไปตามขอหากอาการป่วยไม่ร้ายแรงถึงกับจะมาศาลไม่ได้ก็ไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป แต่กรณีนี้ศาลกลับวินิจฉัยไปทันทีโดยมิได้ดำเนินการไต่สวนหรือตั้งผู้ใดไปตรวจสอบเช่นนี้ที่ ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอเลื่อนคดี แล้วมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน