คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4688/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มารดาผู้ร้องและคัดค้านได้แบ่งที่ดินมรดกของบิดาให้ทายาททุกคน ซึ่งรวมทั้งผู้ร้องและผู้คัดค้าน ได้ เข้าครอบครองเป็นสัดส่วนแล้ว เป็นการแบ่งปันทรัพย์มรดก โดยชอบด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 วรรคแรกเมื่อผู้ร้องได้ขายที่ดินมรดกที่ได้รับแบ่งให้ไปแล้วจึงไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกอีก แม้ต่อมาผู้ร้องได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกของบิดาก็ไม่มีสิทธิจัดการมรดก ดังนั้น เมื่อผู้ร้องขอจะใช้อำนาจผู้จัดการมรดกมาเรียกร้องเอาส่วนแบ่งใหม่ให้ผิดไป จากที่ได้แบ่งปันกันไปแล้ว จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกระทบกระเทือนสิทธิของผู้คัดค้านและทายาทอื่นซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกส่วนของตนอยู่ มีเหตุสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 แม้มีการแบ่งปันที่ดินมรดกโดยผู้คัดค้านและทายาทอื่นเข้าครอบครองเป็นส่วนสัดแล้วก็ตาม แต่ที่ดินมรดกรายนี้เป็นที่ดินมี น.ส.3 และยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยกทั้งเคยมีการไปขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินดำเนินการ แบ่งแยกทะเบียน แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะดำเนินการแบ่งแยกทางทะเบียนให้โดยอ้างว่าต้องให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขอแบ่งแยกทางทะเบียน กรณีจึงพอถือได้ว่าการจัดการ หรือแบ่งปันมรดกที่ดินของผู้ตายมีเหตุขัดข้องทั้งผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามที่จะเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718จึงตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกที่ดินของผู้ตาย

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายมี ผู้คัดค้านยื่นคำร้องว่าผู้คัดค้านเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ร้องทรัพย์มรดกของนายมี คือที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ได้แบ่งเป็นสัดส่วนมอบให้แก่ทายาททุกคนครอบครองแล้วส่วนของผู้ร้องได้ขายให้แก่บุคคลอื่นไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ขอให้ศาลถอนผู้ร้องจากผู้จัดการมรดกและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายมี ต่อไป
ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านครอบครองที่ดินมรดกแทนผู้ร้องขอให้ยกคำร้องของผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ผู้ร้องและผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้คัดค้านในส่วนที่ขอถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มารดาผู้ร้องและผู้คัดค้านได้แบ่งที่ดินมรดกของนายมีให้ทายาททุกคนซึ่งรวมทั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านได้เข้าครอบครองเป็นสัดส่วนแล้วเป็นการแบ่งปันทรัพย์มรดกโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1750 วรรคแรก และผู้ร้องได้ขายที่ดินมรดกที่ได้รับแบ่งให้แก่นายสม ไปแล้ว จริงเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกรายนี้อีก ไม่มีสิทธิจัดการมรดกต่อไป ดังนั้นเมื่อผู้ร้องจะใช้อำนาจผู้จัดการมรดกมาเรียกร้องเอาส่วนแบ่งใหม่ให้ผิดไปจากที่ได้แบ่งปันกันไปแล้ว จึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกระทบกระเทือนสิทธิของผู้คัดค้านและทายาทอื่นซึ่งครอบครองทรัพย์มรดกส่วนของตนอยู่ มีเหตุสมควรให้ศาลถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727
ปัญหาต่อไปมีว่าสมควรจะตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้หรือไม่ เห็นว่า แม้มีการแบ่งปันที่ดินมรดกโดยผู้คัดค้านและทายาทอื่นเข้าครอบครองเป็นสัดส่วนแล้วก็ตาม แต่ที่ดินมรดกรายนี้เป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) และยังไม่ได้จดทะเบียนแบ่งแยก ทั้งเคยมีการไปขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินดำเนินการแบ่งแยกทางทะเบียน แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินปฏิเสธที่จะดำเนินการแบ่งแยกทางทะเบียนให้โดยอ้างว่าต้องให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขอแบ่งแยกทางทะเบียน กรณีจึงพอถือได้ว่าการจัดการหรือแบ่งปันมรดกที่ดินของนายมี ผู้ตายยังมีเหตุขัดข้องทั้งผู้คัดค้านมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามที่จะเป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 จึงตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกที่ดินของนายมี ผู้ตาย
พิพากษากลับ ให้ถอนผู้ร้องจากการเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายแล้วตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแทน

Share