คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4681/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการที่โจทก์อ้างส่งต่อศาล จำเลยไม่คัดค้าน อีกทั้งจำเลยยังได้เบิกความยอมรับถึงความถูกต้องแท้จริงของเอกสารดังกล่าว ดังนี้ศาลย่อมรับฟังลายมือชื่อของจำเลยในเอกสารดังกล่าวเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันที่พิพาทได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2530 จำเลยที่ 1ได้กู้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยจำนวน 20,000 บาท จากโจทก์ ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12ต่อปี กำหนดชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเสร็จภายใน 2 ปี โดยแบ่งชำระเป็นงวดรายเดือน เดือนละ 1,085 บาท งวดสุดท้ายชำระ 1,250.42 บาทหากผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามสัญญาจำเลยที่ 1 ยอมชำระค่าปรับในอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ของต้นเงินที่ค้างชำระจำเลยที่ 2 และที่ 3ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1 โดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้งวดที่ 8 ถึงงวดที่ 21โดยงวดที่ 8 ชำระหนี้เพียงบางส่วน ค้างชำระต้นเงิน 13,812.46 บาทรวมดอกเบี้ยและค่าปรับถึงวันฟ้องเป็นเงิน 46,245.67 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 46,245.67 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อปี และค่าปรับอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 13,812.46 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 ไม่เคยค้ำประกันการกู้ยืมเงินของจำเลยที่ 1 สัญญาค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงิน 13,812.46 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 21 เมษายน 2531จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 ฎีกาว่าที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์รับฟังและนำเอาลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 ในสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการตามเอกสารหมาย จ.19 มาเปรียบเทียบกับลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 ในสัญญาค้ำประกันตามเอกสารหมาย จ.4 เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง นั้น เห็นว่าเรื่องนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าเมื่อโจทก์อ้างส่งสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการของจำเลยที่ 3ตามเอกสารหมาย จ.19 จำเลยที่ 3 มิได้คัดค้าน อีกทั้งยังได้เบิกความยอมรับว่า เอกสารหมาย จ.19 เป็นสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการของจำเลยที่ 3 และลายมือชื่อในบัตรประจำตัวข้าราชการดังกล่าวก็เป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของจำเลยที่ 3 ด้วย ศาลฎีกาจึงต้องถือตามข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาดังกล่าว ฉะนั้นเมื่อเอกสารหมาย จ.19 เป็นพยานเอกสารที่โจทก์อ้างส่งต่อศาล โดยจำเลยที่ 3ไม่คัดค้าน อีกทั้งยังได้เบิกความยอมรับถึงความถูกต้องแท้จริงของเอกสารดังกล่าว ศาลย่อมรับฟังลายมือชื่อของจำเลยที่ 3 ในเอกสารดังกล่าวเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันตามเอกสารหมาย จ.4 ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(1) คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share