คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 468/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเริ่มนับเวลการฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1374, 1375 เพื่อปลดเปลื้องการรบกวนและเอาเอาคืนซึ่งการครอบครองนั้น ต้องมีพฤติการณ์แสดงออกถึงการรบกวนหรือแย่งการครอบครองในอันที่จะให้เริ่มต้นนับเวลาการฟ้องร้อง
การที่เจ้าหนักงานออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลย ไม่ถือเป็นการรบกวนหรือแย่งการครอบครองของโจทก์ กำหนดเวลาฟ้องร้องยังไม่เริ่มนับ
จำเลยยื่นคำคัดค้านการขอรับรองทำประโยชน์ในที่พิพาทของโจทก์ เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ กำหนดเวลาฟ้องร้องเริ่มนับ

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยได้ยื่นคำคัดค้านร้องขอรับรองการทำประโยชน์ในที่พิพาทของโจทก์และบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างในที่พิพาท
จำเลยสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย และฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ บังคับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างห้ามจำเลยกับบริวารเกี่ยวข้องกับที่พิพาท และคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คู่ความต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ การที่จะนับอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๗๔, ๑๓๗๕ นั้น ต้องมีพฤติการณ์แสดงออกถึงการรบกวนหรือแย่งการครอบครองในอันที่จะให้เริ่มต้นนับเวลาการฟ้องร้อง การที่เจ้าพนักงานออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้จำเลยนั้น ไม่เป็นการรบกวนหรือแย่งการครอบครองของโจทก์พึ่งปรากฏว่าจำเลยได้ยื่คำคัดค้านขอรับรองทำประโยชน์ในที่พิพาทของโจทก์ เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ และโจทก์ฟ้องคดีภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่เวลาที่จำเลยโต้แย้งสิทธิ คดีโจทก์จึงไม่ล่วงเลยเวลาการฟ้องร้อง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share