คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 291 ต้องเป็นการกระทำโดยประมาท และการกระทำโดยประมาทนั้นต้องเป็นผลโดยตรงให้เกิดความตาย และการกระทำตามมาตรานี้ไม่รวมถึงการละเว้น เพราะกรณีใดกฎหมายต้องการลงโทษการละเว้น ก็ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ เช่นมาตรา 154,157,162
จำเลยที่ 1 ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจใช้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นการสับเปลี่ยนหัวประแจ เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ 1 ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ 2 เปลี่ยนแล้วไม่สับกลับคืนรางเดิมเป็นเหตุให้รถชนกันจนมีคนตาย เช่นนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึง ก็เป็นเพียงละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน อยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ 2 ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามมาตรา 291.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ช่วยนายสถานี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายสถานี จำเลยที่ ๒ เป็นคนการ วันเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ สั่งให้จำเลยที่ ๒ กลับประแจรางหลีกในท่ารางประธานเข้าสู่รางตัน เปิดทางให้รถฟืนเข้าออกในรางตัน จอดแล้ว จำเลยทั้งสองมีหน้าที่ร่วมกันกลับประแจให้อยู่ในท่า+ประธานตามเดิม แต่จำเลยทั้งสองประมาท มิได้กลับประแจ เป็นเหตุให้รถโดยสารขบวน ๘๘ แล่นเข้าสู่รางตันชนท้านขบวนรถฟืน ท้ายขบวนตกทับนายแช่มนายสง่าตาย ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๒ ผิดมาตรา ๒๙๑ ลดโทษ ๑ ใน ๓ ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๑ ผิดมาตรา ๒๙๑ จำคุก ๓ ปี นอกนั้นยืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙๑ จะต้องมีการกระทำโดยประมาท และการกระทำโดยประมาทนั้นต้องเป็นผลโดยตรงให้เกิดความตายและการกระทำตามมาตรานี้ไม่รวมถึงการละเว้น เพราะกรณีใดกฎหมายต้องการลงโทษการละเว้นก็ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ เช่น ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามมาตรา ๑๕๔,๑๕๗,๑๖๒ ดังนั้น เมื่อฟังว่าจำเลยเป็นผู้ทำหน้าที่แทนนายสถานี มีอำนาจให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นคนการให้สับเปลี่ยนหัวประแจ เพราะเคยปฏิบัติกันเช่นนี้เสมอมา เมื่อใช้แล้วจำเลยที่ ๑ ไม่ได้กระทำอะไรเกี่ยวข้องกับหัวประแจนั้นเลย จำเลยที่ ๒ เปลี่ยนแล้วไม่กลับคืนรางเดิม เป็นเหตุให้รถชนกันจนนายแช่มนายสง่าตาย เช่นนี้ เห็นว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้กระทำอะไร เป็นแต่ไม่ไปตรวจหัวประแจก่อนที่รถจะมาถึงเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องละเว้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ อันเป็ฯคนละเรื่องกับการกระทำโดยประมาท การไม่ไปตรวจ ไม่ใช่ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกัน ผลโดยตรงที่ทำให้รถชนกันซึ่งอยู่ที่การเปลี่ยนหัวประแจแล้วไม่สับกลับ ซึ่งเป็นการกระทำของจำเลยที่ ๒ ผู้เดียว จำเลยที่ ๑ ไม่ผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์ฟ้อง พิพากษาแก้ ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๑ นอกนั้นยืน.

Share