คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยปลูกผักบุ้งไว้ในลำคลองสาธารณะตรงหน้าที่ดินและบ้านเรือนของจำเลยก่อนโจทก์ได้รับประทานบัตรให้เป็นผู้มีสิทธิทำการประมงในลำคลองนั้น โจทก์ขัดข้องในการทำการประมงเพราะแพผักบุ้งของจำเลย ทางการจึงอนุญาตให้จำเลยเทียบแพผักบุ้งได้เฉพาะพื้นที่ตามเขตหน้าบ้าน แต่แพผักบุ้งของจำเลยยาวเกินกว่าเขตหน้าบ้าน เช่นนี้ส่วนที่เกินเลยออกไปทางการชี้แจงห้ามปรามแล้วเมื่อจำเลยไม่ฟังและโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลยย่อมเป็นการละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปลูกผักบุ้งเข้าไปในเขตที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมการประมงให้เป็นผู้ผูกขาดจับสัตว์น้ำ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนแพผักบุ้งออกไปกับใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า ลำคลองเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สาธารณชนย่อมจะใช้สิทธิหาประโยชน์อื่นนอกจากทำการจับปลาได้ การปลูกผักบุ้งของจำเลยในหน้าบ้านของตน ชอบที่จะทำได้

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนหรือทำลายแพผักบุ้งของจำเลยเว้นแต่ที่ได้รับผ่อนผันให้ปลูกเพื่อสวนครัวตรงหน้าบริเวณบ้านขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะค่าเสียหาย (ลดจำนวนลง) นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์ได้รับประทานบัตรให้เป็นผู้มีสิทธิทำการประมงและหรือเพาะสัตว์น้ำ จำเลยมีที่ดินและบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งคลองในเขตที่ว่าประมูลของโจทก์ จำเลยได้ปลูกผักบุ้งเทียบเป็นแพไว้ลำคลองตอนหน้าที่ดินและบ้านเรือนของจำเลยตั้งแต่ก่อนโจทก์จะได้รับประทานบัตร โจทก์ไม่ได้รับความสะดวกและขัดข้องในการทำการประมง เพราะแพผักบุ้งของจำเลย จึงร้องต่ออำเภอ อำเภอผ่อนผันให้ผู้มีบ้านเรือนอยู่ปลูกผักบุ้งเพื่อการสวนครัวได้เฉพาะเขตหน้าบ้านเรือนเท่านั้น แพผักบุ้งของจำเลยมีอาณาเขตกว้าง 10 เมตร ยาว 160 เมตร เกินกว่าเขตหน้าบ้านเรือนจำเลย จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามแล้วจำเลยจำเลยมีหนังสือร้องเรียนกระทรวงเกษตร กระทรวงเกษตรส่งเรื่องให้กรมประมงพิจารณาแล้วสั่งว่า อนุญาตให้เฉพาะการเทียบแพผักบุ้งเพื่อใช้เลี้ยงสุกรและบริโภคในครัวเรือนตามหน้าบ้านได้เท่านั้น

เมื่อทางการอนุญาตให้จำเลยเทียบแพผักบุ้งได้เฉพาะพื้นที่ตามเขตหน้าบ้านของจำเลย แต่ปรากฏว่าแพผักบุ้งของจำเลยมีอาณาเขตเกินเลยออกไปจากที่ได้รับอนุญาต ส่วนที่เกินเลยออกไปจึงถือว่าได้รับอนุญาตด้วยไม่ได้ และทางการได้ชี้แจ้งห้ามปรามแล้ว จำเลยไม่เชื่อฟัง โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการกระทำของจำเลยจึงเป็นการละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน

พิพากษายืน

Share