แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ ๑ โอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาซื้อขายแก่โจทก์และห้ามจำเลยที่ ๒ เกี่ยวข้องกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ยักยอกมรดกไปขายให้กับโจทก์ ทำให้จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นทายาทได้รับความเสียหาย ได้ขอให้เพิกถอนแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ถึงแก่ความตาย ผู้ร้องอ้างว่าเป็นบิดาและเป็นทายาทของโจทก์ ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์
จำเลยที่ ๒ แถลงคัดค้านว่าผู้ร้องมิใช่บิดาและทายาทของโจทก์
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า ผู้ร้องเป็นบิดาของโจทก์และมีสิทธิรับมรดกของโจทก์ มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นรับมาไม่ชอบ พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามอุทธรณ์จนกว่าศาลชั้นต้นจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๖ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน