แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ออกหมายเรียกโจทก์ผู้อุทธรณ์มาไต่สวนได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 32
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ออกหมายเรียกโจทก์มาไต่สวน โจทก์รับหมายเรียกแล้วไม่ไปชี้แจงและรับการไต่สวนโดยไม่มีเหตุสมควร โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาล ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 30 (2), 33
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยอ้างว่าโจทก์ชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร ให้โจทก์เสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมพร้อมทั้งให้เสียเงินเพิ่มด้วย โจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โจทก์ โจทก์เสียภาษีเงินได้โดยถูกต้องแล้ว ขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ห้ามมิให้จำเลยเรียกเก็บภาษีตามฟ้องจากโจทก์
จำเลยให้การว่า คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้ออกหมายเรียกโจทก์มาไต่สวน โจทก์รับหมายเรียกแล้วไม่มาชี้แจงและรับการไต่สวนไม่มีเหตุสมควร โจทก์หมดสิทธิที่จะอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ต่อศาลตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๓ คำสั่งของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ได้รับหมายเรียกจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่เรียกโจทก์มาไต่สวนแล้ว แต่โจทก์ขัดขืนไม่มาให้ถ้อยคำหรือรับการไต่สวนโดยไม่มีเหตุสมควรจึงหมดสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๓ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ โดยนำคดีมาฟ้องต่อศาลได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งอุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษีอากรนั้น จำเลยที่ ๒ ในฐานะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีอำนาจออกหมายเรียกโจทก์ผู้อุทธรณ์มาไต่สวนได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๒ การที่จำเลยที่ ๒ ออกหมายเรียกโจทก์มาไต่สวนจึงเป็นการชอบด้วยกฎหมาย และการที่นายเจ้าเองกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์จะต้องไปให้ถ้อยคำหรือรับการไต่สวนนั้น ก็มิใช่เป็นการเฉพาะตัวเหมือนกับหมายเรียกบุคคลมาเป็นพยานศาล เพราะนายเจ้าเองอาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปให้ถ้อยคำหรือชี้แจงแทนได้ ซึ่งข้อนี้นายเจ้าเองก็ทราบดีเพราะเคยมอบอำนาจให้นายสวัสดิ์ ทนายความเป็นผู้ชี้จงแทนมาครั้งหนึ่งแล้ว ทั้งจำเลยที่ ๒ มีหนังสือเตือนก็ได้แจ้งให้ทราบแล้วด้วย ข้อที่โจทก์อ้างว่านายเจ้าเองอยู่ในวัยชราและเจ็บป่วย จึงไม่เป็นเหตุที่จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวได้ ฉะนั้น เมื่อกรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่ไปให้ถ้อยคำหรือมอบอำนาจให้ผู้ใดไปชี้แจงแทนดังกล่าว จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ต่อศาลได้ตามบทบัญญัติมาตรา ๓๐ (๒), ๓๓ แห่งประมวลรัษฎากรเมื่อฟังว่าโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ต่อศาลหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ฎีกาของโจทก์ที่คัดค้านว่าการประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้ของเจ้าพนักงานประเมิน และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่ถูกต้องนั้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย เพราะโจทก์หมดสิทธิที่จะรื้อฟื้นการประเมินภาษีเงินได้รายพิพาทขึ้นโต้แย้งเป็นคดีต่อศาลแล้ว
พิพากษายืน