คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทนในการที่ต้นยางพาราของโจทก์ ถูกจำเลยทำให้ไฟไหม้เสียหาย 1020 ต้นคิดเป็นเงิน 5100 บาท ดังนี้ จำเลยมีสิทธิจะได้ค่าเสียหายสำหรับต้นยางที่ถูกไฟไหม้ตาย กับทั้งสำหรับต้นยางที่ถูกไฟไหม้แต่เปลือกกรีดน้ำยางไม่ได้ต้องรอจนเปลือกขึ้นมาใหม่จึงจะกรีดได้ด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ต้นยางพาราของโจทก์ถูกจำเลยทำให้ไฟไหม้เสียหาย ๑๐๒๐ ต้น คิดเป็นเงิน ๕๑๐๐ บาท ในชั้นพิจารณาโจทก์,จำเลยแถลงขอให้ศาลสืบฉะเพาะประเด็นข้อค่าเสียหายว่าจำเลยจะต้องรับผิดเป็นจำนวนเท่าใด ทางพิจารณาได้ความว่า ต้นยางของโจทก์ถูกไฟไหม้เสียหายมากบ้างน้อยบ้าง ที่เสียหายมากก็ถึงตาย ที่น้อยหน่อยก็กรีดยางไม่ได้โดยเปลือกไหม้ ต้องรอจนเปลือกขึ้นมาใหม่ จึงจะกรีดยางได้ ศาลชั้นต้นคำนวณค่าทดแทนให้โจทก์ ๔๐๐๐ บาท พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายฉะเพาะต้นยางที่ถูกไฟไหม้ตายโดยคิดเป็นราคาเพียง ๔๙๔ บาท
โจทก์ฎีกา, ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เต็มตามฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ต้นยางที่ถูกไฟไหม้กรีดน้ำยางไม่ได้ต้องรอไปอีกเช่นนี้ ก็เรียกว่าเสียหายเช่นเดียวกัน เว้นแต่การคำนวณค่าเสียหายย่อมอาจลดหลั่นกันบ้าง ที่ศาลอุทธรณ์ไม่คิดค่าเสียหายเสียเลยสำหรับต้นยางประเภทที่ถูกไฟไหม้แต่ต้องรอต่อไปอีกจึงจะกรีดน้ำยางได้ โดยถือว่าเป็นการนอกฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย การที่ศาลชั้นต้นคำนวณค่าเสียหายให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์ ๔,๐๐๐ บาทนั้นเป็นการสมควรแก่รูปคดีแล้ว
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น

Share