คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4662/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือตั้งจำเลยเป็นตัวแทนในการทำสัญญาเช่า ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าในฐานะเป็นตัวแทนผู้ร้อง เมื่อจำเลยเช่าตึก พิพาทจากโจทก์ ผู้ร้องเข้ามาอาศัยอยู่ในตึก พิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยจึงเป็นบริวารจำเลย.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องมิใช่บริวารจำเลย ขอให้ศาลเพิกถอนหมายบังคับคดีเสีย
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องเป็นผู้เช่าตึกพิพาทกับโจทก์ โดยจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมิใช่บริวารของจำเลย แต่ทางไต่สวนได้ความว่าผู้ร้องไม่มีหลักฐานตั้งตัวแทนเป็นหนังสือเนื่องจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 บังคับไว้ว่า การเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ และมาตรา 798 วรรคสอง บัญญัติว่าในกิจการอันใดต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการอันนั้นก็ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือด้วย ฉะนั้น เมื่อได้ความว่าผู้ร้องไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือตั้งจำเลยเป็นตัวแทนแล้วก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยทำสัญญาเช่าในฐานะเป็นตัวแทนผู้ร้อง เมื่อจำเลยเช่าตึกพิพาทจากโจทก์ ผู้ร้องเข้ามาอาศัยอยู่ในตึกพิพาทโดยอาศัยสิทธิของจำเลยจึงเป็นบริวารจำเลย ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของผู้ร้องชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share