แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335ตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป เข้าองค์ประกอบของมาตรา 335 วรรคสามศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวโดยไม่ได้ระบุวรรค ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาแก้ระบุวรรคให้ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้นได้ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ถึงปัญหานี้ เพราะมิได้เป็นการเพิ่มโทษจำเลยแต่อย่างใด แต่ที่แก้เป็นมาตรา 335 วรรคสองนั้นยังไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาย่อมแก้ให้ถูกต้องเป็นมาตรา335 วรรคสามได้ จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาข้อ ก. มาในกำหนดระยะเวลาที่จะฎีกาได้ แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยในข้อ ก. แล้วจึงไม่มีฎีกาในข้อ ก. ที่จะให้จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาในข้อ ก.มาจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335ขอให้คืนหรือใช้ราคาแก่เจ้าทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 จำคุก 2 ปีให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นไม่ได้ระบุวรรคใดของมาตรา 335 ไม่ถูกต้องพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 วรรคสองจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของจำเลยในข้อ ข. ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาเพียงข้อเดียวว่า การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 วรรคสอง นั้น เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 เพราะฟ้องโจทก์อ้างฐานความผิดและบทมาตราเพียงว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 เท่านั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 นั้นมีอยู่หลายวรรคด้วยกัน และแต่ละวรรคโทษไม่เท่ากัน แม้โจทก์จะขอมาท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 โดยมิได้ระบุวรรค แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งแล้วว่าจำเลยกระทำความผิดในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์แล้วปีนเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า และลักทรัพย์ในเคหสถาน อันเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1)(3)(4) และ(8)ของมาตรา 335 ตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป เข้าองค์ประกอบของมาตรา 335 วรรคสาม เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องศาลก็ชอบที่จะปรับบทลงโทษจำเลยตามวรรคที่ถูกต้องได้ และเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวโดยมิได้ระบุวรรคให้ถูกต้อง แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ถึงปัญหานี้ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจโดยชอบที่จะพิพากษาแก้ระบุวรรคเสียให้ถูกต้องและชัดเจนยิ่งขึ้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง หาเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ดังฎีกาของจำเลยไม่ เพราะมิได้เป็นการเพิ่มโทษจำเลยแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335 วรรคสอง นั้น ยังไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้เสียให้ถูกต้องด้วย
อนึ่ง ปรากฏว่าคดีนี้จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มา 2 ข้อ โดยระบุเป็นข้อ ก. และข้อ ข. ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยเฉพาะข้อ ข. โดยเห็นว่าฎีกาของจำเลยในข้อ ก.เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ และจำเลยก็มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้แต่อย่างใด แล้วต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขและเพิ่มเติมฎีกาในข้อ ก. ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อเดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยในข้อ ก. แล้วจึงไม่มีฎีกาในข้อ ก. ที่จะให้จำเลยขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ แม้จำเลยจะได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมฎีกาในข้อ ก. มาในกำหนดระยะเวลาที่จะฎีกาได้ก็ตาม ก็ไม่อาจจะขอแก้ไขเพิ่มเติมข้อฎีกาที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับแล้วได้ คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 วรรคสาม นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์