แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา มีทางชนะคดี โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 5 ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 206 แผ่นที่ 11 และแผ่นที่ 6) เฉพาะโจทก์ที่ 5แถลงคัดค้าน(อันดับ 207)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์และจำเลยที่ 4 ในสำนวนหลังว่า โจทก์ที่ 5 และจำเลยที่ 8ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน
โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และโจทก์ที่ 5 ต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ร่วมกันใช้ค่าขาดไร้อุปการะแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 60,000 บาท ส่วนค่าขาดไร้อุปการะสำหรับโจทก์ที่ 2 ให้ใช้แก่เด็กชายพันธ์นกิติเวชจำนวน 102,000 บาท แก่เด็กชายสุรเชษฐ์กิติเวช จำนวน114,000 บาท และใช้ค่าปลงศพแก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2 จำนวน10,000 บาท กับให้เสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินที่จำเลยจะต้องชำระดังกล่าว นับแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2523เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ให้จำเลยที่ 2 ที่ 4 ที่ 5และที่ 8(ซึ่งเป็นจำเลยในสำนวนหลัง) ร่วมกันให้ค่าเสียหายแต่โจทก์ที่ 5 จำนวน 60,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ที่ 5 และจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ต่างฎีกา (อันดับ 205,203)
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 202)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ร่วมกันหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 4 กรกฎาคม2523เป็นต้นไปจนถึงวันทราบคำสั่งนี้และดอกเบี้ยต่อไปอีก2 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับแก่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้องและค่าคำร้องให้เป็นพับ