คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ซึ่งเป็นกฎหมายใช้ขณะจำเลยกระทำผิดบัญญัติ “ให้ริบของซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดนั้น” แต่พ.ร.บ.ควบคุมยานพาหนะทางน้ำ ฯลฯ 2488 ม.12 ซึ่งใช้ขณะพิจารณาคดีโทษให้ริบทรัพย์ไม่มี ต้องใช้กฎหมายที่มีโทษเบาคือไม่ริบเรือของกลาง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของเรือ มีน้ำหนักบรรทุก ๒๑.๑๒ ตันกรอสส์ จำเลยได้ให้ผู้มีชื่อเช่าหรือนี้ไปโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมเจ้าท่าขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมยานพาหนะสาธารณะทางน้ำภาวะคับขัน (ฉะบับที่ ๒) ๒๔๘๕ และขอให้ริบเรือของกลาง
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องและให้ริบเรือของกลาง
จำเลยอุทธรณ์และขอให้ศาลสั่งคืนเรือของกลางศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า กฎหมายเรื่องควบคุมยานพาหนะสาธารณะทางน้ำ ฯลฯ ที่โจทก์ฟ้องได้ยกเลิกไปแล้ว โดย พ.ร.บ.ยกเลิกบรรดา พ.ร.ก. ควบคุมพาหนะสาธารณะทางน้ำ ฯลฯ พ.ศ.๒๔๘๘ ม.๓ คดีต้องบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมยานพาหนะทางน้ำ ฯลฯ พ.ศ.๒๔๘๘ ม.๑๒ แต่กฎหมายนี้และกฎหมายที่ใช้ในขณะจำเลยกระทำผิดกำหนดโทษต่างกัน คือ พ.ร.บ.มอบอำนาจให้รัฐบาลภาวะคับขัน (ฉะบับที่ ๓) ๒๔๘๕ ม.๓ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดนั้น แต่พ.ร.บ.ควบคุมพาหนะทางน้ำ ฯลฯ ๒๔๘๘ ม.๑+นี้ใช้ในขณะพิจารณาคดี โทษให้ริบทรัพย์ไม่มี ต้องใช้กฎหมายที่มีโทษเบาตามอาญา ม.๘ พิพากษาแก้ ให้คืนเรือของกลางแก่จำเลยไป

Share