แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับขณะเกิดกรณีพิพาทคดีนี้ ข้อ 7 กำหนดให้จำเลยเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และบำรุงรักษาทางหลวงจังหวัด และข้อ 18ให้อธิบดีของจำเลยเป็นเจ้าหน้าที่กำกับตรวจตราและควบคุมงานที่เกี่ยวกับทางหลวงจังหวัด เมื่อจำเลยดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนพิพาทโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการจราจรของประชาชนทั่วไปและเพื่อป้องกันน้ำท่วมซึ่งเป็นการสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่น โดยมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใดประกอบกับไม่สามารถหลีกเลี่ยงการยกระดับถนนให้ต่ำลงกว่าที่สร้างได้เพราะจะทำให้การจราจรติดขัดและอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้ที่ต้องใช้ทางหลวงจังหวัดสายนี้จำนวนมากได้ทั้งโจทก์ทราบมาก่อนซื้อที่ดินพร้อมบ้านแล้วว่าจำเลยจะก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาท เมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่ดินพร้อมบ้านที่โจทก์ซื้อดังกล่าวซึ่งอยู่ติดถนนพิพาทมาคำนึงประกอบแล้ว โจทก์จึงคาดหมายได้ว่าการยกระดับถนนพิพาทอาจทำให้ที่ดินและบ้านที่โจทก์กำลังจะซื้อนั้นถูกถนนพิพาทบังทางลมและแสงสว่าง เท่ากับโจทก์ยอมรับสภาพดังกล่าวก่อนซื้อที่ดินและบ้านไว้แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจำนวนมากจะได้รับความสะดวกปลอดภัยและความเจริญของท้องถิ่นจากการยกระดับถนนพิพาทในระดับที่สร้างกับการที่โจทก์ต้องขาดความสะดวกสบายไปบ้างแล้วความเดือดร้อนของโจทก์ดังกล่าวไม่เกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้และมีเหตุอันสมควร โจทก์จำต้องยอมรับเอาดังเช่นบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมกับโจทก์ในสังคมยอมรับ การก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาทไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนายณรงค์ เป็นเจ้าของที่ดินพร้อมบ้านไม้สองชั้นเลขที่ 427 หมู่ 19 ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ จำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ทำสัญญาว่าจ้างจำเลยที่ 3 ก่อสร้างทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3109(ถนนคลองเตย-จระเข้น้อย) จำเลยที่ 3 ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวตรงหน้าบ้านโจทก์ด้านทิศใต้ซึ่งจะมีความสูง 1 เมตร70 เซนติเมตร ถ้าสร้างถนนเสร็จตามโครงการแล้วจะบังทางลมและแสงสว่างที่จะเข้าบ้านโจทก์ และทำให้ไม่สามารถค้าขายต่อไปได้โดยปกติสุข ขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งสามงดการก่อสร้างถนนทางหลวงสายดังกล่าว
จำเลยทั้งสามให้การว่า จำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2ทำสัญญาว่าจ้างจำเลยที่ 3 ก่อสร้างขยายปรับปรุงทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3109 (สายคลองเตย-จระเข้น้อย) และจำเลยที่ 3 ได้ก่อสร้างถนนทางหลวงสายดังกล่าวตามแบบแปลนที่ได้สำรวจออกแบบตามความจำเป็นของสภาพถนนเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการจราจรของประชาชน โจทก์ยังคงอยู่อาศัยในบ้านและค้าขายได้ตามปกติ ทั้งโจทก์ทราบว่าจะมีการก่อสร้างถนนทางหลวงนี้มาก่อนรับโอนบ้านแล้ว โจทก์ย่อมต้องยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับขณะเกิดกรณีพิพาทคดีนี้ ข้อ 7 กำหนดให้จำเลยที่ 1เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และบำรุงรักษาทางหลวงจังหวัดและข้อ 18 ให้อธิบดีของจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่กำกับ ตรวจตราและควบคุมงานที่เกี่ยวกับทางหลวงจังหวัด จำเลยที่ 1 ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงถนนพิพาททางหลวงจังหวัดหมายเลข 3109 โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการจราจรของประชาชนทั่วไปและเพื่อป้องกันน้ำท่วมซึ่งเป็นการสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นโดยมิได้มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใด ประกอบกับไม่สามารถหลีกเลี่ยงการยกระดับถนนให้ต่ำลงกว่าที่สร้างได้เพราะจะทำให้การจราจรติดขัดและอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของผู้ที่ต้องใช้ทางหลวงจังหวัดสายนี้จำนวนมากได้ ทั้งโจทก์ทราบมาก่อนซื้อที่ดินพร้อมบ้านแล้วว่าจำเลยที่ 1 จะก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาท เมื่อเอาสภาพและตำแหน่งที่ดินพร้อมบ้านที่โจทก์ซื้อดังกล่าวซึ่งอยู่ติดถนนพิพาทมาคำนึงประกอบแล้ว โจทก์จึงคาดหมายได้ว่าการยกระดับถนนพิพาทอาจทำให้ที่ดินและบ้านที่โจทก์กำลังจะซื้อนั้นถูกถนนพิพาทบังทางลมและแสงสว่าง เท่ากับโจทก์ยอมรับสภาพดังกล่าวก่อนซื้อที่ดินและบ้านไว้แล้ว และเมื่อเปรียบเทียบประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจำนวนมากจะได้รับความสะดวกปลอดภัยและความเจริญของท้องถิ่นจากการยกระดับถนนพิพาทในระดับที่สร้างกับการที่โจทก์ต้องขาดความสะดวกสบายไปบ้างแล้ว เห็นว่า ความเดือดร้อนของโจทก์ดังกล่าวไม่เกินกว่าที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ และมีเหตุอันสมควร โจทก์จำต้องยอมรับเอาดังเช่นบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมกับโจทก์ในสังคมยอมรับ การก่อสร้างปรับปรุงยกระดับถนนพิพาทไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์ ดังนั้นการกระทำของจำเลยทั้งสามตามฟ้องจึงไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
พิพากษายืน