แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยทราบวันนัดชี้สองสถานโดยชอบแล้ว แต่ถึงวันนัดจำเลยไม่มาและศาลได้ชี้สองสถานไปโดยกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ด้วยการกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 วรรคสองแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2527บัญญัติไว้ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายที่ไม่มาศาลในวันชี้สองสถานทราบแล้วจึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ เมื่อจำเลยไม่มาในวันนัดสืบพยาน ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการชอบแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยคืนกระบือของโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ และว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยส่งคืนกระบือ
ในวันที่จำเลยยื่นคำให้การ ศาลสั่งรับคำให้การของจำเลยและนัดชี้สองสถานในวันที่ 20 มิถุนายน 2529 เวลา 13.30 นาฬิกาจำเลยทราบวันนัดโดยชอบ พอถึงวันชี้สองสถานฝ่ายจำเลยไม่มาศาลทำการชี้สองสถานแล้วนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 9 กรกฎาคม 2529เวลา 13.30 นาฬิกา พอถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่มา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาทำการสืบพยานโจทก์และพิพากษาในวันเดียวกันว่าให้จำเลยคืนกระบือของโจทก์ 12 ตัวแก่โจทก์โดยให้โจทก์คืนเงิน 16,000 บาท แก่จำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 184 ศาลชั้นต้นมีหน้าที่จะต้องแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยทราบ การที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้วไม่แจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวแก่จำเลยจึงเป็นการปฏิบัติโดยขัดต่อตัวบทกฎหมายเป็นการไม่ชอบขอให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และเพิกถอนการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบของศาลชั้นต้น นั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 184 วรรคสอง ที่กำหนดให้ศาลต้องออกหมายกำหนดวันนัดสืบพยานให้คู่ความทราบนั้นหมายถึงกรณีที่คู่ความยังไม่ทราบถึงกำหนดวันนัดสืบพยาน และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในคดีนี้ว่าในวันนัดชี้สองสถานจำเลยก็ได้ทราบโดยชอบแล้วแต่ถึงวันนัดจำเลยไม่มา และศาลได้ชี้สองสถานไปโดยกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้ด้วยการกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาล ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 183 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 10)พ.ศ. 2527 บัญญัติไว้ ให้ถือว่าคู่ความฝ่ายใดที่ไม่มาศาลในวันชี้สองสถานให้ถือว่าทราบกระบวนพิจารณาของศาลในวันนั้นแล้วการที่ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดสืบพยานไว้ จึงต้องถือว่าจำเลยได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์นั้นแล้ว เมื่อจำเลยไม่มาในวันนัดสืบพยานที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาจึงเป็นการชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”