แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามความใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา222 นั้น มิใช่เฉพาะแต่กรณีที่คาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ ในเวลาทำสัญญาเท่านั้น ถ้าหากผู้ผิดสัญญาย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ว่าการที่ตัวทำผิดสัญญา จะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็อาจมีความรับผิดในค่าเสียหายนั้นด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนโจทก์ได้ทำสัญญาซื้อไม้สักเหลี่ยมจากจำเลยแล้วจำเลยผิดสัญญาบอกเลิกการขายไปยังโจทก์ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ผิดสัญญาเอง
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยคืนเงินมัดจำแก่โจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์นำสืบไม่ชัด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาให้โจทก์เป็นเงิน 20,000 บาท ฯลฯ นอกนี้ยืน
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า อันค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222 นั้นมิใช่เฉพาะแต่กรณีที่คาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ ในเวลาทำสัญญาเท่านั้นถ้าหากผู้ผิดสัญญาย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ว่าการที่ตัวทำผิดสัญญาจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็อาจมีความรับผิดในค่าเสียหายนั้นด้วย สำหรับค่าเสียหายนั้น ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยใช้แก่โจทก์เป็นเงิน 36,267 บาท 75 สตางค์ ฯลฯ นอกจากนี้คงยืน