แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในพินัยกรรมมีข้อความว่า ถ้าตนถึงแก่กรรมก่อนสามีแล้วให้แบ่งทรัพย์ดังนี้ฯลฯ เมื่อปรากฏว่าสามีกลับตายก่อนเช่นนี้ ข้อความในพินัยกรรมนั้น ย่อมเป็นไร้ผล ผู้ใดจะถือสิทธิตามพินัยกรรมนั้นไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นบุตรนางฮับเกิดกับนายชื่นผู้เป็นบิดาจำเลยที่ 2 เป็นบุตรนางฮับ เกิดกับพระญาณวิจิตร์ พระญาณวิจิตรตายประมาณ 12 ปีมาแล้ว นางฮับตายเมื่อ พ.ศ. 2487 โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกนางฮับ ผู้เป็นมารดาจากจำเลย
จำเลยต่อสู้ว่า พระญาณวิจิตรกับนางฮับได้ทำพินัยกรรมร่วมกันยกทรัพย์ให้บางคน และให้จำเลยที่ 2 ทรัพย์ที่โจทก์ฟ้อง ตกได้แก่จำเลยที่ 2 ทั้งสิ้น โจทก์ไม่มีส่วนได้เลย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามพินัยกรรม ผู้ตายมีเจตนาจะให้คำสั่งมีผลต่อเมื่อนางฮับตายก่อนพระญาณวิจิตร ถ้าหากตายภายหลังพระญาณวิจิตรแล้วย่อมไม่ประสงค์จะให้แบ่งปันทรัพย์ตามพินัยกรรมเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พระญาณวิจิตรตายก่อนนายฮับ ข้อความในพินัยกรรมของนางฮับจึงเป็นอันไร้ผล จำเลยจะถือสิทธิตามพินัยกรรมนางฮับไม่ได้ จึงพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์ตามส่วน
ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน