คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งของจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้าง ที่สั่ง ส. ผู้รับจ้างว่าให้ ส. ทำการก่อสร้างอาคารไปตามแบบแปลนที่จำเลยที่ 1 ได้ยื่นไว้ต่อเทศบาลและเทศบาลได้อนุญาตแล้ว เป็นคำสั่งกำชับให้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างเหมาระหว่างจำเลยผู้ว่าจ้างกับ ส. ผู้รับจ้าง ไม่เป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับการทำการก่อสร้างอาคารของ ส. ผู้รับจ้าง ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งให้ ส. ตอกเสาเข็มด้วยเครื่องจักรอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์การตอกเสาเข็มจึงเป็นการกระทำของ ส. ผู้รับจ้างเอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสามเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในที่ดินโฉนดที่ 2635 จำเลยทั้งสองร่วมกันจ้างและมีคำสั่งให้ผู้รับจ้างซึ่งไม่มีความรู้ความชำนาญให้ทำการก่อสร้างอาคารหลายชั้นตามแบบแปลนที่จำเลยได้ขออนุญาตต่อเทศบาลนครกรุงเทพฯ ในที่ดินของจำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ติดต่อกับที่ดินโจทก์ผู้รับจ้างได้ใช้เครื่องจักรตอกเสาเข็มหลายต้น เป็นเหตุให้กระเทือนทำให้ตึกของโจทก์ ครัว โรงรถ และรั้วในที่ดินโจทก์แตกร้าว จะต้องซ่อม และเป็นเหตุให้ผู้เช่าตึกของโจทก์เลิกเช่า จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 195,700 บาทพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยได้ว่าจ้างเหมานายสุน แต่จำเลยไม่ได้สั่งให้ผู้รับจ้างใช้เครื่องจักรตอกเสาเข็ม จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ นายสุนผู้รับจ้างเหมาจะต้องรับผิดต่อโจทก์เอง

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกนายสุน แซ่ผู้ เข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลมีคำสั่งให้เรียกนายสุนเข้ามาเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (3)

นายสุนให้การว่า มีความรู้ความชำนาญในการก่อสร้าง แต่ไม่รับว่าความเสียหายของโจทก์เกิดจากการตอกเสาเข็มทั้งหมด

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ นายสุนยอมรับผิดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์40,000 บาท และคู่ความทุกฝ่ายรับกันว่า “…. จำเลยที่ 3 (ที่ถูกน่าจะเป็นนายสุน) ได้ทำไปตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จ้างโดยคำสั่งที่ว่านั้นหมายถึงให้ทำไปตามแบบแปลนที่จำเลยที่ 1 ได้ยื่นไว้ต่อเทศบาล และเทศบาลได้อนุญาตแล้ว ….” แล้วคู่ความทุกฝ่ายแถลงว่า ไม่สืบพยาน ขอให้ศาลชี้ขาดไปตามรูปคดีในประเด็นว่า จำเลยทั้งสองต้องร่วมรับผิดกับนายสุนหรือไม่

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 40,000 บาท

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งของจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้างที่สั่งนายสุนผู้รับจ้างว่าให้นายสุนทำการก่อสร้างอาคารไปตามแบบแปลนที่จำเลยที่ 1 ได้ยื่นไว้ต่อเทศบาลและเทศบาลได้อนุญาตแล้ว เป็นคำสั่งกำชับให้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างเหมาระหว่างจำเลยผู้ว่าจ้างกับนายสุนผู้รับจ้าง ไม่เป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับการทำการก่อสร้างอาคารของนายสุนผู้รับจ้าง ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งให้นายสุนตอกเสาเข็มด้วยเครื่องจักรอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การตอกเสาเข็มจึงเป็นการกระทำของนายสุนผู้รับจ้างเอง จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

พิพากษายืน

Share