แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายที่ดิน ฯ มาตรา 31 วรรคท้าย บัญญัติว่า ภายในกำหนดเวลาห้ามโอนตามวรรคหนึ่ง ที่ดินนั้นไม่อยู่ในข่ายการบังคับคดีการที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพิพาทไว้เพื่อรอการขายทอดตลาดเมื่อกำหนดเวลาห้ามโอนสิ้นสุดลง เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี แม้ผลการยึดทรัพย์จะมิได้ทำให้สิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เมื่อที่ดินพิพาทไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่มีอำนาจยึดได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลแพ่งขอให้ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดเชียงราย)ยึดที่ดินพิพาทแปลงตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 103 ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ของจำเลยออกขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 4536/2527 ของศาลแพ่งศาลชั้นต้นสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ประจำศาลชั้นต้นยึดที่ดินพิพาทโดยโจทก์ได้นำยึดไว้แล้ว
จำเลยยื่นคำร้องว่า ที่ดินพิพาทต้องห้ามการโอนภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ 5 กันยายน 2526 จึงไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการยึดที่ดินพิพาท
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ที่โจทก์นำยึดที่ดินพิพาทนั้นก็เพื่อรอการขายทอดตลาดเมื่อกำหนดเวลาห้ามการโอนผ่านพ้นไปแล้ว เป็นการบังคับคดียังไม่เสร็จสิ้นและมิได้มีการโอนให้แก่ผู้ใด จึงไม่เข้าข่ายต้องห้ามตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและคำคัดค้านเพียงพอที่จะวินิจฉัยคดีได้แล้ว จึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนและให้เพิกถอนการยึดที่ดินพิพาท เพราะที่ดินพิพาทห้ามการโอนภายใน 10 ปี จึงไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ข้อสองมีว่า การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพิพาทไว้เพื่อรอการขายทอดตลาด เมื่อกำหนดเวลาห้ามโอนสิ้นสุดลงแล้วไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 เพราะแม้การยึดทรัพย์จะเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี แต่ผลการยึดทรัพย์มิได้ทำให้สิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเปลี่ยนไป เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทต้องห้ามการโอนภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ 5 กันยายน 2526 ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 31 วรรคท้ายบัญญัติว่า ภายในกำหนดเวลาห้ามโอนตามวรรคหนึ่ง ที่ดินนั้นไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา282 บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจที่จะรวบรวมเงินให้พอชำระตามคำพิพากษาโดยวิธียึดและขายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ดังนั้น การยึดที่ดินพิพาทจึงเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี แม้ผลการยึดทรัพย์จะยังมิได้ทำให้สิทธิแห่งการครอบครองที่ดินพิพาทของจำเลยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เมื่อที่ดินพิพาทไม่ตกอยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดีแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ไม่มีอำนาจที่จะยึดได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้เพิกถอนการยึดที่ดินพิพาทนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน