แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXY ใช้กับสินค้าน้ำยาเคลือบเบาะหนัง จำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าว ไปใช้กับสินค้าจำพวกเดียวกันโดยไม่มีสิทธิใด ๆ ตามกฎหมาย เป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายใด ๆ ที่โจทก์ได้รับจากการกระทำของจำเลยได้ แม้โจทก์จะเป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสำคัญ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบกิจการค้าสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งน้ำยาเคมีที่ใช้รักษาเบาะรถยนต์และเครื่องหนังภายใต้เครื่องหมายการค้า WAXY (แว็กซี่) ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายแล้ว สำหรับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของโจทก์นั้นก่อนประดิษฐ์หรือผลิตโจทก์ทำการค้นคว้าทดลองจนได้ผลเป็นที่พอใจ และได้รักษาคุณภาพสินค้าตลอดมาทั้งต้องลงทุนโฆษณามาก จึงมีประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลายและไว้วางใจในเรื่องคุณภาพว่าดีสม่ำเสมอ นอกจากนี้โจทก์ได้โฆษณาคำว่า WAXY ควบคู่ไปกับการแจ้งบอกว่าเป็นสินค้าที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยโรงงานของโจทก์จนประชาชนทราบดี และโจทก์ก็ยังได้ส่งสินค้าของโจทก์ออกจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศหลายประเทศ เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2541 ปรากฏว่ายอดขายสินค้าของโจทก์ลดลง โจทก์ได้สืบหาสาเหตุจึงทราบว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันแอบอ้างเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งน้ำยาเคมีใช้รักษาเบาะรถยนต์และเครื่องหนังที่มีตราเครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXYอันเป็นเครื่องหมายการค้าปลอมที่มีผู้ทำปลอมเครื่องหมายการค้าที่แท้จริงของโจทก์โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าเป็นสินค้าที่มีการปลอมเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ต่อมาวันที่ 11 ธันวาคม 2541 เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยน้ำยาเคมีใช้รักษาเบาะรถยนต์และเครื่องหนังที่มีเครื่องหมายการค้าคำว่า WAXY ปลอมติดอยู่จำนวน 1,422 ขวด ซึ่งสินค้าดังกล่าวมิได้ผลิตขึ้นจากโรงงานของโจทก์ จำเลยทั้งสองได้หลอกลวงขายสินค้าให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าสินค้าของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นสินค้าของโจทก์ที่ผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้า WAXY โดยจำเลยทั้งสองอาศัยความแพร่หลายของชื่อเสียงในทางการค้าของโจทก์เป็นทางการค้าของจำเลยทั้งสองการกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ประชาชนเกิดความสับสนหลงผิดในสินค้าและยังปรากฏอีกว่าสินค้าปลอมนั้นมีคุณภาพไม่ดีเท่ากับสินค้าของโจทก์ เป็นผลทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า WAXYเป็นเหตุให้การค้าของโจทก์ได้รับความเสียหาย ยอดขายลดลง โจทก์ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าสินค้าของโจทก์มีคุณภาพดีอย่างไร ตลอดจนมีการจัดรายการชิงรางวัลเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยโจทก์เสียหายไม่น้อยกว่า 10,000,000บาท แต่โจทก์ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองเป็นเงินเพียง 5,000,000บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน 5,000,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่ฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า สินค้าตามคำฟ้องซึ่งจำเลยทั้งสองขายอยู่นั้นเป็นสินค้าอันแท้จริง เพียงแต่จำเลยทั้งสองมิได้ซื้อมาจากโจทก์ เนื่องจากโจทก์ตั้งราคาไว้สูงกว่าผู้ขายรายอื่น โจทก์จึงกลั่นแกล้งแจ้งให้พนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งสอง ซึ่งขณะนี้(ขณะยื่นคำให้การ) คดีอาญายังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 400,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า”พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นนี้รับฟังได้ว่า โจทก์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทยและได้จดทะเบียนเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่าWAXY อ่านว่าแว็กซี่ ใช้กับสินค้าจำพวกที่ 3 รายการสินค้าน้ำยารักษาเบาะรถยนต์และเครื่องหนังต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เมื่อปี 2537 และโจทก์ได้จำหน่ายน้ำยาเคมีเคลือบและรักษาเบาะหนังรถยนต์ภายใต้เครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXY มานานกว่า 20 ปี แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2541 เจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าตรวจค้นร้านสินอะไหล่และอาคารเก็บสินค้าของจำเลยที่ 2 พบสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า WAXY ปลอม จำนวน 1,422 ขวด เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพี่ชายและต่อมาพนักงานอัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXY ปลอม อันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งอนุญาต ต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 110(1) ประกอบมาตรา 108 ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ให้จำคุกคนละ 1 ปีและปรับคนละ 100,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษายืน มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่า โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าน้ำยาเคลือบเบาะหนัง โจทก์จึงมิใช่เจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้นเห็นว่า โจทก์จะเป็นผู้ผลิตสินค้าน้ำยาเคลือบเบาะหนังหรือไม่ ไม่ใช่ข้อสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXY ใช้กับสินค้าน้ำยาเคลือบเบาะหนัง จำเลยทั้งสองนำเครื่องหมายการค้ารูปและคำว่า WAXYไปใช้กับสินค้าจำพวกเดียวกันกับของจำเลยทั้งสองโดยไม่มีสิทธิใด ๆ ตามกฎหมายเป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายใด ๆ ที่โจทก์ได้รับจากการกระทำของจำเลยทั้งสองได้ อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน