แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ เคยมีหนังสือเตือนไปยังผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของบรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ให้ยุติการโฆษณาเสนอข้อความที่มีลักษณะเป็นการเสนอข่าวและวิจารณ์ข้อที่ไม่เป็นความจริงมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งหลังนี้ผู้ร้องได้ลงข่าวโฆษณาพาดหัวว่า “ห่วงหลุด เสียเงินหมื่น เลือดไหลไม่หยุด เจ็บปวดทรมาน” แต่ข้อความตามข่าวนั้นเป็นความจริงและมิใช่ข้อความในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตกใจหรือวิตกกังวลหรือเกิดความหวาดกลัว การลงข่าวโฆษณาครั้งหลังนี้ไม่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 ข้อ 2(6) และด้วยเหตุนี้จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับดังกล่าว ข้อ 4 ซ้ำอีกเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่มีอำนาจสั่งถอนใบอนุญาตผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการหรือเจ้าของหนังสือพิมพ์ของผู้ร้องตามข้อ 7 วรรคสอง ได้ คำสั่งของเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่สั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานการพิมพ์ดังกล่าว
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ว่า เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๒๗ ผู้ร้องได้เสนอข่าวในหนังสือพิมพ์ “ทันข่าว” ในหัวข้อว่า “ห่วงหลุด” เสียเงินหมื่น เลือดไหลไม่หยุดเจ็บปวดทรมาน”ครั้นวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๒๗ เจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ได้มีคำสั่งที่ ๑๕๓๖/๒๕๒๗ ให้ถอนใบอนุญาตผู้ร้องในฐานะเจ้าของและบรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ ๑๕๓๖/๒๕๒๗ และอนุญาตให้ผู้ร้องดำเนินการพิมพ์หนังสือพิมพ์ของผู้ร้องต่อไป
ผู้คัดค้านคัดค้านว่า ผู้ร้องพาดหัวข่าวและลงข้อความอันเป็นเท็จ ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจหวาดกลัวและวิตกกังวลแก่สตรีที่ได้ใส่ห่วงคุมกำเนิดไปแล้วและที่ประสงค์จะใส่ห่วงคุมกำเนิดอีกจำนวนหลายหมื่นคน หนังสือพิมพ์ของผู้ร้องได้เคยตีพิมพ์และพาดหัวข่าวซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนจนผู้คัดค้านมีหนังสือเตือนไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ผู้ร้องก็ยังขืนตีพิมพ์ข้อความอันเป็นเท็จในครั้งนี้อีก ผู้คัดค้านจึงจำต้องสั่งถอนใบอนุญาตการเป็นเจ้าของและบรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์ของผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาแล้วส่งสำนวนมาศาลฎีกาพร้อมกับทำความเห็นว่าคำสั่งของผู้คัดค้านเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ เห็นสมควรเพิกถอน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีของผู้ร้องนี้ปรากฏว่า เจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ได้เคยมีหนังสือเตือนไปยังผู้ร้องให้ยุติการโฆษณาเสนอข้อความที่มีลักษณะเป็นการเสนอข่าวและวิจารณ์ข้อที่ไม่เป็นความจริงมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งผู้ร้องไม่ได้โต้แย้งเป็นอย่างอื่น ปัญหามีว่า กรณีของผู้ร้องได้มีการโฆษณาข้อความอันเป็นการฝ่าฝืนข้อ ๔ ซ้ำอีกตามข้อ ๗ วรรคสอง อันเป็นเหตุให้เจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งให้ถอนใบอนุญาตผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “ทันข่าว” ของผู้ร้องหรือไม่ ได้ความจากพยานหลักฐานของผู้ร้องว่าการลงข่าวโฆษณาโดยพาดหัวข่าวข้อความครั้งหลังในเรื่อง “ห่วงหลุด”เสียเงินหมื่น เลือดไหลไม่หยุด เจ็บปวดทรมาน” นั้นเป็นความจริงทั้งหาใช่ข้อความในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตกใจหรือวิตกกังวลหรือเกิดความหวาดกลัวแต่อย่างใดไม่ การกระทำของผู้ร้องซึ่งเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการและเจ้าของหนังสือพิมพ์ชื่อ”ทันข่าว” ที่พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๒๗ ว่า “ห่วงหลุด เสียเงินหมื่น เลือดไหลไม่หยุด เจ็บปวดทรมาน” นั้น ไม่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒ ข้อ ๒(๖) ดังนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๓๓/๒๕๓๒ ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดอุตรดิตถ์ โจทก์ นายโปรย สมบัติ จำเลย ดังนั้นการกระทำของผู้ร้องจึงไม่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับดังกล่าว ข้อ ๔ ซ้ำอีก เจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์จึงไม่มีอำนาจสั่งถอนใบอนุญาตผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการหรือเจ้าของหนังสือ “ทันข่าว” ของผู้ร้องตามข้อ ๗ วรรคสองได้คำสั่งของเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ที่สั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบ
จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานการพิมพ์สำหรับจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ ๑๕๓๖/๒๕๒๗ คำขอของผู้ร้องนอกจากนี้ให้ยกค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ