คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4530/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขัดทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลพิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ คดีถึงที่สุด คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมผูกพันผู้ร้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 ผู้ร้องจะมาร้องขอกันส่วนอ้างว่ามีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยอีกหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้องและนายวิชัย วงศ์เลิศสุวรรณ คนละครึ่งจำเลยหลอกให้นายวิชัยขายให้แล้วนำไปจำนองไว้กับโจทก์เพื่อประกันหนี้ของจำเลยที่ ๑ ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอกันส่วนจากเงินที่ขายทอดตลาดกึ่งหนึ่ง
โจทก์แถลงคัดค้านว่า ผู้ร้องเคยร้องขัดทรัพย์มาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขัดทรัพย์ คดีถึงที่สุด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสอบคู่ความได้ข้อเท็จจริงตามคำคัดค้านของโจทก์ แล้ววินิจฉัยให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องได้ร้องขัดทรัพย์และศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยที่ ๒ ผู้ร้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมผูกพันผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ ผู้ร้องจะมาร้องขอกันส่วนอ้างว่ามีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยที่ ๒ อีกหาได้ไม่
พิพากษายืน.

Share