คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค มิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วเกิดเป็นความผิดเสมอไป กรณีจะต้องประกอบด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเช่นนั้น จำเลยได้ออกโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน เจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อโจทก์นำสืบแต่เพียงว่าเช็คนั้นถูกนำไปขึ้นเงินภายหลังจากวันที่ที่จำเลยสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงจะฟังว่าในวันที่ที่สั่งธนาคารจ่ายเงิน จำเลยไม่มีเงินในบัญชีและมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นยังไม่แน่นอน จำเลยยังไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 (1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ (๑) ให้ปรับจำเลยที่ ๑ และจำคุกจำเลยที่ ๒ ข้ออื่นให้ยก
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะวินิจฉัยตามข้อฎีกาของจำเลยเบื้องแรกมีว่าที่จำเลยที่ ๑ สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย จ. ๑ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๑๕ ผู้รับเงินตามเช็คนำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้จ่ายวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๑๕ และจำเลยที่ ๒ สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย จ.๖ ลงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ ผู้รับเงินตามเช็คนำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้จ่ายวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ เช็คทั้ง ๒ ฉบับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน คือเช็คเอกสารหมาย จ.๑ คืนเช็คโดยเหตุผลว่า โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย เช็คเอกสารหมาย จ.๖ คืนโดยเหตุผลว่าเช็คเงินในบัญชีไม่พอจ่าย แต่โจทก์มิได้นำสืบให้ได้ความว่าในวันที่ที่ลงไว้ในเช็ค ซึ่งเป็นวันออกเช็คสั่งจ่าย จำเลยไม่มีเงินฝากในบัญชีธนาคารอันจะพึงให้ใช้เงินได้ จำเลยจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ (๑) หรือไม่นั้น
ศาลฎีกาเห็นว่า การจะเป็นความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค มิใช่ว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว ก็เกิดเป็นความผิดเสมอไป กรณีจะต้องประกอบด้วยว่าเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินนั้น จำเลยได้ออกโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันที่สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน เจตนาดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิด คดีนี้โจทก์นำสืบแต่เพียงว่าผู้รับสลักหลังเช็คจากโจทก์ได้เอาเช็คไปขึ้นเงินภายหลังจากวันที่ที่จำเลยสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้นจะฟังว่าในวันที่ที่สั่งธนาคารจ่ายเงิน จำเลยไม่มีเงินในบัญชีและมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นยังไม่แน่นอน การนำสืบของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาจำเลยข้ออื่น
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share